SUMPRODUCT เป็นสูตรที่ใช้สำหรับ การหาผลคูณของคอลัมน์ตั้งแต่ 2 คอลัมน์ขึ้นไป และเอาผลที่ได้จากการคูณนั้น มารวมกัน เช่น
แต่ถ้าใช้สูตร SUMPRODUCT ซึ่งโปรแกรมจะทำงานเช่นเดียวกับข้างต้น คือหาผลคูณแต่ละรายการ และนำผลที่ได้มารวมกัน ข้อแตกต่างคือ ทำเพียงครั้งเดียว และสามารถยืดหยุ่นได้ ซึ่งจะได้แสดงให้ดูต่อไปว่า ยืดหยุ่นได้อย่างไร ผลที่ได้จากการใช้ SUMPRODUCT ในช่อง F8 มีดังนี้
เราใช้หลักการการประเมินเป็น true หรือ false กับเงื่อนไขแต่ละเงื่อนไขเสียก่อน จากนั้นจึงเอาผลมาคูณกัน คือ ถ้า เงื่อนไขทั้ง 2 เป็นจริง ก็จะได้ 1 แต่ถ้าเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเป็นเท็จ ก็จะได้ 0 ซึ่งส่วนนี้จะเป็นค่าแรกที่ป้อนเข้าสูตร sumproduct จากนั้นจึงกำหนดคอลัมน์ที่ 2 ให้กับสูตร sumproduct ลองดูตัวอย่างจากภาพข้างล่างนี้
|
วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555
SUMPRODUCT
วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ลบเสียงพากษ์อังกฤษ ซับไตเติล ให้เหลือเฉพาะเสียงพากษ์ไทย ในไฟล์ HD (.mkv)
ลบเสียงพากษ์อังกฤษ ซับไตเติล ให้เหลือเฉพาะเสียงพากษ์ไทย ในไฟล์ HD (.mkv)
ใครที่ชอบสะสมหนัง HD เป็นไฟล์ .mkv ไว้ดู หรือแปลงไฟล์ใส่ใน Smart Phone (เวลาแปลงไฟล์จะมีแต่เสียงพากษ์อังกฤษ) ขนาดไฟล์ใหญ่โดยไม่จำเป็นอีกต่างหาก
วันนี้ Ubonweb.com มีวิธีการมานำเสนออีกวิธีที่ผมใช้อยู่เป็นยังไงมาดูกัน
1.เลือกหนังมาชักเรื่อง (ส่วนมากจะหาจากพวกเว็บบิต) มี 2 แบบ คือ Mini-HD 720p(ขนาด 3-4GB) และ HD 1080p (ขนาด 8-45 GB) ตัวอย่างหนังที่จะนำมาเป็นตัวอย่าง คือ Immortals - เทพเจ้าธนูอมตะ
ข้อมูลในไฟล์ หลักๆ ก็จะมี ขนาด 3.52 GB, เสียงพากษ์: ไทย/อังกฤษ ซับ: ไทย/อังกฤษ
โค๊ด: [Select]
D:\Movie\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-TH.sakwor=CtHts=.mkv
General
Unique ID : 224775681571795104551001574933574388259 (0xA91A38BA2EADC4E1AA7488AB387B0A23)
Complete name : J:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-TH.sakwor=CtHts=.mkv
Format : Matroska
File size : 3.52 GiB
Duration : 1h 50mn
Overall bit rate : 4 560 Kbps
Encoded date : UTC 2012-02-29 11:59:39
Writing application : mkvmerge v3.2.0 ('Beginnings') built on Feb 12 2010 16:46:17
Writing library : libebml v0.7.9 + libmatroska v0.8.1
Video #1
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : High@L5.1
Format settings, CABAC : No
Format settings, ReFrames : 5 frames
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 50mn
Bit rate : 2 600 Kbps
Width : 1 280 pixels
Height : 688 pixels
Display aspect ratio : 1.852
Original display aspect ratio : 1.853
Frame rate mode : Variable
Frame rate : 23.976 fps
Color space : YUV
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.123
Stream size : 1.94 GiB (55%)
Title : Immortals.2011 ENCODED BY SAKWOR
Writing library : x264 core 116 r2019M 9cc407d
Encoding settings : cabac=0 / ref=6 / deblock=0:1:1 / analyse=0x3:0x133 / me=umh / subme=9 / psy=1 / psy_rd=0.40:0.20 / mixed_ref=1 / me_range=4 / chroma_me=1 / trellis=1 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-3 / threads=10 / sliced_threads=0 / nr=400 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=5 / b_pyramid=1 / b_adapt=2 / b_bias=5 / direct=3 / weightb=0 / open_gop=0 / weightp=0 / keyint=230 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc_lookahead=40 / rc=2pass / mbtree=1 / bitrate=2600 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / aq=1:0.60
Language : English
Audio #2
ID : 2
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 354 MiB (10%)
Title : AC3
Language : Thai
Audio #3
ID : 3
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 24 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 1.17 GiB (33%)
Title : DTS
Language : English
Text #4
ID : 4
Format : VobSub
Muxing mode : zlib
Codec ID : S_VOBSUB
Codec ID/Info : The same subtitle format used on DVDs
Title : LOW
Language : Thai
Text #5
ID : 5
Format : VobSub
Muxing mode : zlib
Codec ID : S_VOBSUB
Codec ID/Info : The same subtitle format used on DVDs
Title : DVD MASTER
Language : Thai
Text #6
ID : 6
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Title : SRT THAISUB
Language : Thai
Text #7
ID : 7
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Title : SRT
Language : English
2. โปรแกรมที่ใช้ ผมจะใช้โปรแกรม MKVToolNix
http://www.bunkus.org/videotools/mkvtoolnix/downloads.html
3. ติดตั้ง Next อย่างเดียว
4.เปิดโปรแกรม
หน้าตาโปรแกรม โปรแกรมนี้ทำอะไรได้เยอะมาก แต่ผมใช้แค่นี้ก็พอ
กด add เลือกไปยังที่อยู่ของไฟล์ .mkv
5.จะเห็นรายละเอียดที่อยู่ใน Tracks ตาภาพ
6.อย่างที่บอกเราจะเอาเฉพาะเสียงพากษ์ไทยเท่านั้นอย่างอื่นไม่เอา
คลิกที่ V_MPEG4...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
7. คลิกที่ A_AC3...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
8.เลือกที่เก็บ คลิกที่ Browse
ตั้งชื่อตั้งอะไรให้เรียบร้อย พร้อมแล้วคลิก Muxing เพื่อเริ่มขั้นตอน
9.เครื่องใช้เวลาประมาณ 2 นาทีครึ่ง
10.คลิก OK ก็เสร็จเรียบร้อย
ที่นี้เรามาดูข้อมูลในไฟล์ที่เราแปลงแล้วกันบ้างว่าเป็นอย่างไร โอ้!! ขนาดลดลงเหลือ 2.35 GB (ลดลง 1.17 GB) เลย
โค๊ด: [Select]
E:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-(ThaiOnly).mkv
General
Unique ID : 185021585093529398098064317204536363693 (0x8B31DC71A30DC821B040BE668B5E0AAD)
Complete name : E:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-(ThaiOnly).mkv
Format : Matroska
File size : 2.35 GiB
Duration : 1h 50mn
Overall bit rate : 3 048 Kbps
Encoded date : UTC 2012-03-30 02:05:10
Writing application : mkvmerge v5.2.1 ('A Far Off Place') built on Jan 2 2012 23:21:10
Writing library : libebml v1.2.3 + libmatroska v1.3.0
Video #1
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : High@L5.1
Format settings, CABAC : No
Format settings, ReFrames : 5 frames
Muxing mode : Header stripping
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 50mn
Bit rate : 2 600 Kbps
Width : 1 280 pixels
Height : 688 pixels
Display aspect ratio : 1.852
Original display aspect ratio : 1.853
Frame rate mode : Variable
Frame rate : 23.976 fps
Color space : YUV
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.123
Stream size : 1.96 GiB (83%)
Title : Immortals.2011 ENCODED BY SAKWOR
Writing library : x264 core 116 r2019M 9cc407d
Encoding settings : cabac=0 / ref=6 / deblock=0:1:1 / analyse=0x3:0x133 / me=umh / subme=9 / psy=1 / psy_rd=0.40:0.20 / mixed_ref=1 / me_range=4 / chroma_me=1 / trellis=1 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-3 / threads=10 / sliced_threads=0 / nr=400 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=5 / b_pyramid=1 / b_adapt=2 / b_bias=5 / direct=3 / weightb=0 / open_gop=0 / weightp=0 / keyint=230 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc_lookahead=40 / rc=2pass / mbtree=1 / bitrate=2600 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / aq=1:0.60
Language : Thai
Audio #2
ID : 2
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Muxing mode : Header stripping
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 354 MiB (15%)
Title : AC3
Language : Thai
ถ้าจะนำไฟล์ที่แปลงแล้ว ไปแปลงลงเครื่อง iPhone, iPod, iPad แนะนำโปรแกรมนี้เลย ภาพสวยใสดูได้อารมณ์ม๊ากมาก
http://www.mediacoderhq.com/device/ipod_iphone_ipad.html
ถ้าใครตั้งค่าไม่เป็นโหลดค่าที่ตั้งไว้ไปใช้ได้เลย วิธีใช้ก็แค่ File -> Load Preset -> เลือกไปยังไฟล์ .xml
http://www.ubonweb.com/download/download.php?file=iPhone_MediaCoder_2012.zip
ใครที่ชอบสะสมหนัง HD เป็นไฟล์ .mkv ไว้ดู หรือแปลงไฟล์ใส่ใน Smart Phone (เวลาแปลงไฟล์จะมีแต่เสียงพากษ์อังกฤษ) ขนาดไฟล์ใหญ่โดยไม่จำเป็นอีกต่างหาก
วันนี้ Ubonweb.com มีวิธีการมานำเสนออีกวิธีที่ผมใช้อยู่เป็นยังไงมาดูกัน
1.เลือกหนังมาชักเรื่อง (ส่วนมากจะหาจากพวกเว็บบิต) มี 2 แบบ คือ Mini-HD 720p(ขนาด 3-4GB) และ HD 1080p (ขนาด 8-45 GB) ตัวอย่างหนังที่จะนำมาเป็นตัวอย่าง คือ Immortals - เทพเจ้าธนูอมตะ
ข้อมูลในไฟล์ หลักๆ ก็จะมี ขนาด 3.52 GB, เสียงพากษ์: ไทย/อังกฤษ ซับ: ไทย/อังกฤษ
2. โปรแกรมที่ใช้ ผมจะใช้โปรแกรม MKVToolNix
http://www.bunkus.org/videotools/mkvtoolnix/downloads.html
3. ติดตั้ง Next อย่างเดียว
4.เปิดโปรแกรม
หน้าตาโปรแกรม โปรแกรมนี้ทำอะไรได้เยอะมาก แต่ผมใช้แค่นี้ก็พอ
กด add เลือกไปยังที่อยู่ของไฟล์ .mkv
5.จะเห็นรายละเอียดที่อยู่ใน Tracks ตาภาพ
6.อย่างที่บอกเราจะเอาเฉพาะเสียงพากษ์ไทยเท่านั้นอย่างอื่นไม่เอา
คลิกที่ V_MPEG4...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
7. คลิกที่ A_AC3...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
8.เลือกที่เก็บ คลิกที่ Browse
ตั้งชื่อตั้งอะไรให้เรียบร้อย พร้อมแล้วคลิก Muxing เพื่อเริ่มขั้นตอน
9.เครื่องใช้เวลาประมาณ 2 นาทีครึ่ง
10.คลิก OK ก็เสร็จเรียบร้อย
ที่นี้เรามาดูข้อมูลในไฟล์ที่เราแปลงแล้วกันบ้างว่าเป็นอย่างไร โอ้!! ขนาดลดลงเหลือ 2.35 GB (ลดลง 1.17 GB) เลย
ถ้าจะนำไฟล์ที่แปลงแล้ว ไปแปลงลงเครื่อง iPhone, iPod, iPad แนะนำโปรแกรมนี้เลย ภาพสวยใสดูได้อารมณ์ม๊ากมาก
http://www.mediacoderhq.com/device/ipod_iphone_ipad.html
ถ้าใครตั้งค่าไม่เป็นโหลดค่าที่ตั้งไว้ไปใช้ได้เลย วิธีใช้ก็แค่ File -> Load Preset -> เลือกไปยังไฟล์ .xml
http://www.ubonweb.com/download/download.php?file=iPhone_MediaCoder_2012.zip
วันนี้ Ubonweb.com มีวิธีการมานำเสนออีกวิธีที่ผมใช้อยู่เป็นยังไงมาดูกัน
1.เลือกหนังมาชักเรื่อง (ส่วนมากจะหาจากพวกเว็บบิต) มี 2 แบบ คือ Mini-HD 720p(ขนาด 3-4GB) และ HD 1080p (ขนาด 8-45 GB) ตัวอย่างหนังที่จะนำมาเป็นตัวอย่าง คือ Immortals - เทพเจ้าธนูอมตะ
ข้อมูลในไฟล์ หลักๆ ก็จะมี ขนาด 3.52 GB, เสียงพากษ์: ไทย/อังกฤษ ซับ: ไทย/อังกฤษ
โค๊ด: [Select]
D:\Movie\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-TH.sakwor=CtHts=.mkv
General
Unique ID : 224775681571795104551001574933574388259 (0xA91A38BA2EADC4E1AA7488AB387B0A23)
Complete name : J:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-TH.sakwor=CtHts=.mkv
Format : Matroska
File size : 3.52 GiB
Duration : 1h 50mn
Overall bit rate : 4 560 Kbps
Encoded date : UTC 2012-02-29 11:59:39
Writing application : mkvmerge v3.2.0 ('Beginnings') built on Feb 12 2010 16:46:17
Writing library : libebml v0.7.9 + libmatroska v0.8.1
Video #1
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : High@L5.1
Format settings, CABAC : No
Format settings, ReFrames : 5 frames
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 50mn
Bit rate : 2 600 Kbps
Width : 1 280 pixels
Height : 688 pixels
Display aspect ratio : 1.852
Original display aspect ratio : 1.853
Frame rate mode : Variable
Frame rate : 23.976 fps
Color space : YUV
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.123
Stream size : 1.94 GiB (55%)
Title : Immortals.2011 ENCODED BY SAKWOR
Writing library : x264 core 116 r2019M 9cc407d
Encoding settings : cabac=0 / ref=6 / deblock=0:1:1 / analyse=0x3:0x133 / me=umh / subme=9 / psy=1 / psy_rd=0.40:0.20 / mixed_ref=1 / me_range=4 / chroma_me=1 / trellis=1 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-3 / threads=10 / sliced_threads=0 / nr=400 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=5 / b_pyramid=1 / b_adapt=2 / b_bias=5 / direct=3 / weightb=0 / open_gop=0 / weightp=0 / keyint=230 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc_lookahead=40 / rc=2pass / mbtree=1 / bitrate=2600 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / aq=1:0.60
Language : English
Audio #2
ID : 2
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 354 MiB (10%)
Title : AC3
Language : Thai
Audio #3
ID : 3
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 24 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 1.17 GiB (33%)
Title : DTS
Language : English
Text #4
ID : 4
Format : VobSub
Muxing mode : zlib
Codec ID : S_VOBSUB
Codec ID/Info : The same subtitle format used on DVDs
Title : LOW
Language : Thai
Text #5
ID : 5
Format : VobSub
Muxing mode : zlib
Codec ID : S_VOBSUB
Codec ID/Info : The same subtitle format used on DVDs
Title : DVD MASTER
Language : Thai
Text #6
ID : 6
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Title : SRT THAISUB
Language : Thai
Text #7
ID : 7
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Title : SRT
Language : English
2. โปรแกรมที่ใช้ ผมจะใช้โปรแกรม MKVToolNix
http://www.bunkus.org/videotools/mkvtoolnix/downloads.html
3. ติดตั้ง Next อย่างเดียว
4.เปิดโปรแกรม
หน้าตาโปรแกรม โปรแกรมนี้ทำอะไรได้เยอะมาก แต่ผมใช้แค่นี้ก็พอ
กด add เลือกไปยังที่อยู่ของไฟล์ .mkv
5.จะเห็นรายละเอียดที่อยู่ใน Tracks ตาภาพ
6.อย่างที่บอกเราจะเอาเฉพาะเสียงพากษ์ไทยเท่านั้นอย่างอื่นไม่เอา
คลิกที่ V_MPEG4...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
7. คลิกที่ A_AC3...
ช่อง Langeage : tha (Thai) <--เปลี่ยนเป็น
ช่อง Default track flag : yes <--เปลี่ยนเป็น
8.เลือกที่เก็บ คลิกที่ Browse
ตั้งชื่อตั้งอะไรให้เรียบร้อย พร้อมแล้วคลิก Muxing เพื่อเริ่มขั้นตอน
9.เครื่องใช้เวลาประมาณ 2 นาทีครึ่ง
10.คลิก OK ก็เสร็จเรียบร้อย
ที่นี้เรามาดูข้อมูลในไฟล์ที่เราแปลงแล้วกันบ้างว่าเป็นอย่างไร โอ้!! ขนาดลดลงเหลือ 2.35 GB (ลดลง 1.17 GB) เลย
โค๊ด: [Select]
E:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-(ThaiOnly).mkv
General
Unique ID : 185021585093529398098064317204536363693 (0x8B31DC71A30DC821B040BE668B5E0AAD)
Complete name : E:\Immortals.2011.720p.x264.DTS-EN.AC3-(ThaiOnly).mkv
Format : Matroska
File size : 2.35 GiB
Duration : 1h 50mn
Overall bit rate : 3 048 Kbps
Encoded date : UTC 2012-03-30 02:05:10
Writing application : mkvmerge v5.2.1 ('A Far Off Place') built on Jan 2 2012 23:21:10
Writing library : libebml v1.2.3 + libmatroska v1.3.0
Video #1
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : High@L5.1
Format settings, CABAC : No
Format settings, ReFrames : 5 frames
Muxing mode : Header stripping
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 50mn
Bit rate : 2 600 Kbps
Width : 1 280 pixels
Height : 688 pixels
Display aspect ratio : 1.852
Original display aspect ratio : 1.853
Frame rate mode : Variable
Frame rate : 23.976 fps
Color space : YUV
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.123
Stream size : 1.96 GiB (83%)
Title : Immortals.2011 ENCODED BY SAKWOR
Writing library : x264 core 116 r2019M 9cc407d
Encoding settings : cabac=0 / ref=6 / deblock=0:1:1 / analyse=0x3:0x133 / me=umh / subme=9 / psy=1 / psy_rd=0.40:0.20 / mixed_ref=1 / me_range=4 / chroma_me=1 / trellis=1 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-3 / threads=10 / sliced_threads=0 / nr=400 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=5 / b_pyramid=1 / b_adapt=2 / b_bias=5 / direct=3 / weightb=0 / open_gop=0 / weightp=0 / keyint=230 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc_lookahead=40 / rc=2pass / mbtree=1 / bitrate=2600 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / aq=1:0.60
Language : Thai
Audio #2
ID : 2
Format : AC-3
Format/Info : Audio Coding 3
Mode extension : CM (complete main)
Muxing mode : Header stripping
Codec ID : A_AC3
Duration : 1h 50mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 448 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 354 MiB (15%)
Title : AC3
Language : Thai
ถ้าจะนำไฟล์ที่แปลงแล้ว ไปแปลงลงเครื่อง iPhone, iPod, iPad แนะนำโปรแกรมนี้เลย ภาพสวยใสดูได้อารมณ์ม๊ากมาก
http://www.mediacoderhq.com/device/ipod_iphone_ipad.html
ถ้าใครตั้งค่าไม่เป็นโหลดค่าที่ตั้งไว้ไปใช้ได้เลย วิธีใช้ก็แค่ File -> Load Preset -> เลือกไปยังไฟล์ .xml
http://www.ubonweb.com/download/download.php?file=iPhone_MediaCoder_2012.zip
วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วิธีแก้ปัญหาภาษาไทยกลายเป็นต่างดาว(ชั่วคราวครับ)
แวะมาทักทายครับ เห็นว่าMultiply เป็นภาษาต่างดาวหายยังคับ ผมก็เป็น พอดีครูแสงแนะนำมา
ลากลงมาให้สุดหน้านี้ครับ...ด้านล่าง มีตัวพิมพ์ว่า @2011 Multiply .....ถ้าเป็นคำว่า Thai ให้คลิก ตรงนั้นมันจะขึ้นเป็นรูปธงชาติ อเมริกา บราซิล ไทย ญี่ปุ่น คลิกที่อเมริกาครับ เพื่อเปลี่ยน Thai เป็น English ภาษาต่างดาวจะหายไปครับ..
แต่เป็นภาษาอังกฤษแทนครับ ใช้ไปก่อนครับดีกว่าต่างดาว ตาลาย
ลากลงมาให้สุดหน้านี้ครับ...ด้านล่าง มีตัวพิมพ์ว่า @2011 Multiply .....ถ้าเป็นคำว่า Thai ให้คลิก ตรงนั้นมันจะขึ้นเป็นรูปธงชาติ อเมริกา บราซิล ไทย ญี่ปุ่น คลิกที่อเมริกาครับ เพื่อเปลี่ยน Thai เป็น English ภาษาต่างดาวจะหายไปครับ..
แต่เป็นภาษาอังกฤษแทนครับ ใช้ไปก่อนครับดีกว่าต่างดาว ตาลาย
วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ตะบันน้ำ (Hydrraulic Ram Pump)
ตะบันน้ำ (Hydrraulic Ram Pump)
คือ เครื่องมือที่สามารถนำน้ำจากที่ต่ำขึ้นที่สูงได้จากแรงดันน้ำและแรงอัดของอากาศ การทำงานคือเมื่อน้ำไหลตกจากที่สูงตามท่อออกทางปลายท่อที่เราใส่เช็ควาด์วไว้ เมื่อเช็ควาด์วปิดจะทำให้น้ำหยุดกระทันหัน เปลี่ยนทิศทางการไหลเข้าสู่เช็ควาด์วอีกตัวที่มีท่อลมอยู่ อากาศที่อยู่ในท่อลม เมื่อถูกน้ำอัดจำกัดพื้นที่ จึงดันน้ำเข้าส่อท่อจ่ายและจากแรงอัดของอากาศนี่เองจึงทำให้สามารถส่งน้ำขึ้นที่สูงๆได้ จากการทดลองทำและติดตั้งเพื่อทดสอบ การวางท่อน้ำส่งนี้ จะต้องใหญ่กว่าท่อจ่าย และต้องยาวอย่างน้อย 20เมตรขึ้นไป ทำมุม ไม่น้อยกว่า 30 องศา ทำมุมตั้งขึ้นมากน้ำจะไหลเข้าแรงทำให้เกิดแรงอัดของอากาศมากน้ำจะถูกส่งขึ้นที่สูงได้มากขึ้นทั้งนี้ท่อลมต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นและเป็นวัสดุที่ทนแรงอัดอากาศได้ ตะบันน้ำนี้มีประโยชน์มากต่อชาวสวน ชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำหรืออยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ โดยไม่ต้องพึ่งพิงเครื่องสูบน้ำ และเราสามารถทำใช้ได้เอง ในราคาที่ไม่แพง น้ำจะไหลตลอดเวลา
คือ เครื่องมือที่สามารถนำน้ำจากที่ต่ำขึ้นที่สูงได้จากแรงดันน้ำและแรงอัดของอากาศ การทำงานคือเมื่อน้ำไหลตกจากที่สูงตามท่อออกทางปลายท่อที่เราใส่เช็ควาด์วไว้ เมื่อเช็ควาด์วปิดจะทำให้น้ำหยุดกระทันหัน เปลี่ยนทิศทางการไหลเข้าสู่เช็ควาด์วอีกตัวที่มีท่อลมอยู่ อากาศที่อยู่ในท่อลม เมื่อถูกน้ำอัดจำกัดพื้นที่ จึงดันน้ำเข้าส่อท่อจ่ายและจากแรงอัดของอากาศนี่เองจึงทำให้สามารถส่งน้ำขึ้นที่สูงๆได้ จากการทดลองทำและติดตั้งเพื่อทดสอบ การวางท่อน้ำส่งนี้ จะต้องใหญ่กว่าท่อจ่าย และต้องยาวอย่างน้อย 20เมตรขึ้นไป ทำมุม ไม่น้อยกว่า 30 องศา ทำมุมตั้งขึ้นมากน้ำจะไหลเข้าแรงทำให้เกิดแรงอัดของอากาศมากน้ำจะถูกส่งขึ้นที่สูงได้มากขึ้นทั้งนี้ท่อลมต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นและเป็นวัสดุที่ทนแรงอัดอากาศได้ ตะบันน้ำนี้มีประโยชน์มากต่อชาวสวน ชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำหรืออยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ โดยไม่ต้องพึ่งพิงเครื่องสูบน้ำ และเราสามารถทำใช้ได้เอง ในราคาที่ไม่แพง น้ำจะไหลตลอดเวลา
การติดตั้งตะบันน้ำ
ท่อส่ง2นิ้ว ท่อจ่าย 6หุน
***ขอสงวนสิทธิ์ ภาพทุกภาพห้ามคัดลอกนำไปติดในเวบไซด์อื่น ก่อนได้รับอนุญาต
เครื่องตะบันน้ำ
เครื่องตะบันน้ำ (เพิ่มแบบ การทำแล้ว) | |
เมื่ออาทิตย์ก่อนทาง NGOs ทางใต้ เขามาชวนเป็นวิทยากร เรื่อง mini-hydro วันนั้นก็มีการคุยกับชาวบ้าน(บางที่ก็ฟังคำถามไม่ค่อยออก ภาษาใต้) และมีการติดหนี้กันไว้เรื่องหนึ่งคือ เรื่องแบบเครื่องตะบันน้ำ (Hydraulic ram) ผมเลยถือโอกาสเขียนเป็นบทความเล็กๆพร้อมกันนี้เลย อนึ่งแบบและผลกาทดลองนี้ไม่ได้เป็นการทดลอง และความคิดของ PlanEnergy แต่เป็นการเรียบเรียงมา โดยอ้างอิงที่มาไว้ท้ายบทความ นโยบายในการผลิต ของเรายังไม่มีครับ เพื่อไม่ให้เสีบเวลาเชิญพบกับเครื่องตะบันน้ำสิ่งมหัศจรรย์ ทางเทคโนโลยี อายุกว่า 200 ปี ได้แล้วครับ |
ข้อดีของเครื่องตะบันน้ำ
1.ไม่ต้องการพลังงานจากภาพนอก ทำงาน 24 ชม./วัน ไม่กิน ไฟฟ้า หรือน้ำมัน กินแต่น้ำ
2.มีโครงที่ไม่ซับซ้อน คือมีส่วนเคลื่อนไหวเพียง 2 ส่วน (วาล์ 2 ตัว)
| |
ส่วนประกอบของระบบเครื่่องตะบันน้ำ
| |
การทำงาน หลักการคือ การทำให้น้ำที่ไหลมาด้วยความเร็ว หยุดกระทันหัน เหมือนเราเปิดก็อกน้ำ ที่ส่งมาจากแท็งน้ำสูงๆ แล้วเราปิดทันที่ จะเกิดแรงดันตีกลับทำให้ท่อน้ำสะบัด ความดันชั่วขณะนี้ จะนำไปใช้ในการส่งน้ำต่อไปยังถังเก็บที่สูงกว่า โดยเราต้องยอมสูญเสียน้ำจำนวนหนึงไป ตามหลักอณุรักณ์พลังงาน คือเราดึงเอาพลังงานจากน้ำที่ไหลเข้า มาให้น้ำที่ส่งไปยังถังเก็บ และทิ้งน้ำที่เหลือพลังงานน้อยออกไปทางวาล์วน้ำทิ้ง | |
แบ่งเป็น 3 ช่วง 1 ช่วงเร่งความเร็วน้ำเข้า โดยวาล์วน้ำทิ้งจะเปิดอยู่ด้วยน้ำหนักที่กด ทำให้น้ำจากท่อน้ำเข้าไหล เข้าตัวเรือนปั๊ม และออกที่วาลวน้ำทิ้ง ควาเร็วของน้ำก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น (ช่วง A ) เมื่อความเร็วถึงจุดหนึ่ง( Vm) กระแสน้ำจะสามารถ พยุงวาล์วน้ำทิ้งเอาชนะน้ำหนักที่กดวาล์วได้ ทำให้วาล์วน้ำทิ้งปิดทันที่ (ช่วง B) 2 ช่วงส่งน้ำ เมื่อน้ำถูกทำให้หยุดกระทันหัน ทำให้เกิดความดันสูงในเรือนปั๊ม ความดันนี้สามารถชนะความดันในห้องความดันได้ ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านวาล์วความดันทางเดียว เข้าไปยังส่วนท่อส่งน้ำออก(ช่วง C) ความดันในตัวเรือนปั๊มจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถชนะความดันในห้องความดันได้ ทำให้วาล์วความดันปิดอีกครั้ง(ที่จุด d) 3 การไหลย้อน น้ำจะไหลย้อนกลับมาทางท่อน้ำเข้า ทำความดันในปั๊มลดลงจนต่ำกว่าความดันบรรยากาศ อากาศบางส่วนไหลเข้ามาทาง วาล์วเติมอากาศเพื่อรอการบรรจุไปในห้องความดันในรอบการทำงานหน้า (การเติมอากาศเล็กน้อยเข้าไปในห้องความดัน ทำให้เราแน่ใจว่าอากาศจะไม่หมดไปกับน้ำที่อาจพาไปกับท่อส่งน้ำ) ความดันที่ลดลงทำให้วาล์วน้ำทิ้งเปิดอีกครั้ง (ด้วยน้ำหนักที่กด) เป็นอันครบรอบการทำงาน | |
อ้างอิง 1.Hydraulic Rams For Off-Stream Livestock Watering Cooperative Extension Service/The University of Georgia College of Agriculture and Environmental Sciences/Athens 2.HYDRAULIC RAM MADE FROM STANDARD PLUMBING PARTS Cooperative Extension Service/The University of Georgia College of Agriculture and Environmental Sciences/Athens 3.HYDRAULIC RAM PUMP SYSTEM DESIGN AND APPLICATION Dr. Abiy Awoke Tessema Head, Equipment Design Research, Development and Technology Adaptation Center Basic Metals and Engineering Industries Agency, P.O. Box 1180, Addis Ababa, Ethiopia ESME 5th Annual Conference on Manufacturing and Process Industry, September 2000 Reprinted with ESME permission by the African Technology Forum 4.HYDRAULIC RAM PUMP Teferi Taye Senior Mechanical Engineer Energy Division, Equatorial Business Group (EBG) Plc, Addis Ababa, Ethiopia Published in the Journal of the ESME, Vol II, No. 1, July 1998 Reprinted with ESME permission by the African Technology Forum 5.How does a hydraulic ram pump work? http://www.howstuffworks.com/ |
มาถึงแบบการทำบ้าง ผมหาจากใน web โดยเลือกที่สามารถหาวัสดุในการทำได้ไม่ยาก แบบ ,ภาพ ,ตลอดจนเนื้อหานี้ได้จากClemson University Cooperative Extension, Laurens County .( http://www.clemson.edu/irrig/Equip/ram.htm ) | ||
| ||
ส่วนประกอบแต่ละอัน ต่อกันด้วยนิปเปิล เราสามารถประกอบจากท่อ PVC หรือท่อกาวาไนส์(ท่อแป๊ป) ก็ได้ แต่แนะนำว่าท่อความดัน(หมายเลข 15) ถ้าเป็น PVC จะช่วยลดน้ำหนักได้มาก | ||
ข้อแนะนำในการประกอบและใช้งาน ท่อความดัน(หมายเลข 15) ให้ใส่ยางในรถตัดเป็นแผ่นกลมขนาดพอดีกับท่อด้านใน ไม่คับไม่หลวม แผ่นยางนี้ช่วยรักษาอากาศ ภายในท่อความดัน ไม่ให้เสียไปกับน้ำขาออก (สังเกตุว่า ตะบันน้ำแบบนี้ไม่มีวาล์วเติมอากาศ snifter valve) หากจำเป็นต้องเปลี่ยนยางใน ก็ทำการตัดท่อแล้วใช้ข้อต่อตรงต่อเหมือนเดิม (แบบเดิมใช่ข้อต่อแบบเป็นเกลียว แต่มีปํญหาเรื่องการรั่ว เลยใช้แบบทากาว) การทำงานของวาล์วต่างๆ วาล์วหมายเลข 1 เป็นทางน้ำเข้า และยูเนียนหมายเลข 8 เป็นทางออกน้ำไปยังถงเก็บ เช็ควาล์วบานพับหมายเลข 4 เป็นวาล์วน้ำทิ้ง วาล์วนี้เตอนเริ่มต้นทำงานเราใช้นิ้วกดให้น้ำไหลออกในครั้งแรก | ||
การติดตั้งวาล์วน้ำทิ้งปรับแนวของสลักยึดบานพับวาล์วให้อยู่ในแนวเดียวกับ แนวท่อน้ำเข้า โดยปรกติถ้าเราต้องการ ความดันน้ำออกให้มากที่สุด(แต่จัเสียน้ำทิ้งมาก และอัตราไหลต่ำ) เราจะหมุนท่อน้ำทิ้งให้ตั้งฉากกับแนวระดับ (น้ำต้องใช้ความเร็วมากในการพาให้ลิ้นวาล์วปิด) แต่เราสามารถปรับมุมของท่อน้ำออกกับแนวระดับที่มุมอื่นๆ เพื่อความเหมาะสมตามความต้องการ วาล์วเปิดปิดอื่นแนะนำให้ใช้แบบบอลวาล์ว แทนแบบประตูน้ำ เพื่อความทนทานต่อแรงกระแทกของน้ำ เกย์ความดันหมายเลข 11 ใช้ในการทดสอบความดันของอากาศในท่อความดันก่อน เดินเครื่องใช้งาน ในระหว่างใช้งาน เราปิดวาล์วหมายเลข 11 เพื่อป้องกันการเสียของเกย์ความดัน (บางที่เราอาจทอดเกย์ออกเลย หลังติดตั้งเรียบร้อย) ท่อน้ำเข้า ท่อส่งน้ำเข้าควรเป็นท่อกาวาไนส์เนื่องจากมีความยืดหยุ่นน้อย(ไม่ยุบไม่ขยาย) ทำให้ประสิธิภาพของเครื่องตะบันน้ำดี แต่ท่อPVC ก็ยังคงใช้งานได้พอใช้ ความยางของท่อน้ำเข้า(วัดจากแหล่งน้ำ) ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 150-1,000 เท่าของ เส้นผ่านศูนย์กลางของท่อน้ำเข้า ตัวอย่างตามแบบท่อน้ำเข้า ขนาด 1-1/4 นิ้ว (1.25 นิ้ว) ความยาวท่อก็ควรอยู่ระหว่าง 187.5 นิ้ว (150 x 1.25) หรือ 15.6 ฟุท ถึง 1250 นิ้ว (1000 x 1.25 ) หรือ 104 ฟุท |
แก้ไข Taskbar & Start Menu หาย
Trouble Shooting |
วิธีแก้ไข Taskbar & Start Menu หาย ใน Windows 2000, XP
มีเพื่อนสมาชิกเขียน email มาถาม เกี่ยวกับปัญหา Taskbar & Start Menu หายไป ไม่แสดงในเมนู Settings ซึ่งปกติที่อยู่ด้านล่างของเมนู Printers ทางเราได้มีการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามีการแก้ไขในส่วนของ Group Policy ของ Windows ซึ่งการแก้ไข สามารถทำได้ดังนี้..ขั้นตอนการใส่ password อัตโนมัติใน Windows 2000
- คลิกปุม Start เลือก Run
- พิมพ์คำว่า "gpedit.msc" จากนั้นกดปุ่ม Enter
- จะได้หน้าต่างดังภาพประกอบ
- ในส่วนของ User Configuration คลิกเลือก Administrative Templates
- คลิกเลือก Start Menu & Taskbar
- ในด้านต่างหน้าขวา คลิกเลือก disable changes to Taskbar & Start Menu Settings
- จะมีหน้าต่างเปิดใหม่ คลิกเลือก Disabled
- คลิกปุ่ม Apply ก็เป็นอันเสร็จ
วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555
พิมพ์แบบ Autocad ให้ได้สเกลที่ต้องการ
พิมพ์แบบ Autocad ให้ได้สเกลที่ต้องการ
การพิมพ์แบบที่เราเขียนออกมาให้เป็นกระดาษและนำไปใช้ในการก่อสร้างจริงนั้น มีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ ทำไม่เป็น อยากรู้วิธีพล็อตแบบ autocad ตั้งแต่ต้นจนจบ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจในวิธีการสังพิมพ์งาน ตั้งค่าหน้ากระดาษ ตั้ง view plot ตั้งแต่ต้นจนจบ แบบจับมือทำกันเลย คุณจะได้พิพ์มงานเขียนแบบจากโปรแกรม Autocad ออกมาเป็นกระดาษและได้ตรงตามมาตราส่วนที่ต้องการ หรือที่เรียกว่า "On scale"
ก่อนที่จะเขียนแบบขึ้นมาซักแผ่น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนก็คือ จะพิมพ์ลงไปในกระดาษขนาดเท่าไหร่และใช้มาตราส่วนเท่าไหร่ ย่อหรือขยายแต่โดยมากแล้วงานเขียนแบบก่อสร้างมักใช้มาตราส่วนย่อ คือขนาดในกระดาษที่สั่งพิมพ์ออกมานั้นเล็กกว่าขนาดก่อสร้างจริง
ขนาดของกระดาษมาตรฐาน ที่ใช้ในงานพิมพ์แบบก่อสร้าง
A0 841x1189 mm.
A1 594x841 mm.
A2 420x594 mm.
A3 297x420 mm.
A4 210x297 mm.
ความหมายของมาตราส่วน
1:100 คือ มาตราส่วนย่อในกระดาษวัดได้ 1มิลลิเมตร ระยะในหน้างานจริงเท่ากับ 100มิลลิเมตร เช่น ระยะในแบบวัดได้ 3เซนติเมตร หน้างานจริงก็คือ 3เมตร นั้นเอง มาตราส่วนย่ออื่นๆก็เช่นเดียวกันทั้ง 1:50 ก็คือมาตราส่วนย่อในกระดาษวัดได้ 1มิลลิเมตร ระยะในหน้างานจริงเท่ากับ 50มิลลิเมตร
5:1 คือ มาตราส่วนขยาย ในกระดาษวัดได้ 5มิลลิเมตร ในหน้างานจริงเท่ากับ 1มิลลิเมตร(ไม่นิยมใช้มาตราส่วนนี้ในงานก่อสร้าง)
เมื่อรู้จักขนาดของกระดาษที่จะพิมพ์แบบและมาตราส่วนย่อ-ขยายแล้ว เราจะมาทำการตั้งค่าหน้ากระดาษในโปรแกรมเพื่อจะได้ง่ายทุกครั้งที่จะสั่งพิมพ์แบบ โดยปรกติแล้วเราจะพิมพ์งานจากหน้า Model และ Layout ซึ้งมีความแตกต่างกัน
การสั่งพิมพ์แบบจาก Model
หากเราเขียนแบบใน Autocad ด้วยสเกลเมตร(หมายถึงลากเส้นไป 1 วัดได้ 1เมตร) การพิมพ์แบบนั้นทำได้โดยการสร้างกรอบสี่เหลี่ยมเท่ากับขนาดกระดาษที่เราจะพิมพ์ ในตัวอย่างจะใช้กระดาษมาตฐานขนาด A3 พิมพ์ในมาตราส่วนย่อ 1:100 พิมพ์ rec>enter> คลิ๊กซ้ายเลือกจุดเริ่มต้น แล้วลากไปทางขวาบน แล้วพิมพ์ d>enter>42.0>enter>29.7>enter จะได้ขนาดกระดาษ A3 ที่ใช้พิมพ์ในมาตราส่วน 1:100
หลังจากนั้นก็ใด้กรอบสี่เหลี่ยมอันนี้มาใช้ในการพิมพ์ แต่ต้อง offset กรอบสี่เหลี่ยมนี้ก่อนเพราะกรอบสี่เหลี่ยมนี้เป็นขนาดกระดาษ A3 จริงจะต้องเว้นระยะจากขอบกระดาษมาด้วย เป็นเส้นพื้นที่การพิมพ์ด้วยคำสั่ง offset พิมพ์ o>enter>1>enter เลือกเส้นกรอบ แล้วคลิ๊กอีกทีในกรอบ ก็จะมีเส้นที่ offset จากขอบกระดาษ เป็นพื้นที่การพิมพ์
พิมพ์แบบ Autoacad ลงกระดาษ A3 Scale 1:100
มาเริ่มการพิพ์ลงกระดาษกันเลย กดแป้นพิมพ์ Ctrl+p จะมีหน้าต่างการพิมพ์ขึ้นมา
1.printer/ptotter เลือกเครื่องพิมพ์ที่เราจะสั่งพิมพ์
2.Paper size =A3 เลือกขนากระดาษ
3.Plot scale เลือกมาตราส่วนในการพิมพ์ 1mm. : 0.1 ดูตามรูปภาพประกอบ
4.Plot style table เลือกพล็อตสไตท์(การตั้งค่า PLot style อ่านที่นี่)
5.Drawing orientation ติ๊กเลือกที่ Landscape
6.Plot area เลือกพื้นที่การพิมพ์ เลื่อนไปที่ windows แล้วคลิ๊กเลือกที่ปุ่ม windows ข้างขวา ไปเลือกพื้นที่การพิมพ์ที่เราตั้งไว้ตอนแรก
7.กด ok เพื่อสั่งพิมพ์
เรียบร้อยแล้ว แบบที่เราสั่งพิมพ์ออกไปในกระดาษขนาด A3 มาตราส่วน 1:100
ขนาดของกระดาษมาตรฐาน ที่ใช้ในงานพิมพ์แบบก่อสร้าง |
ก่อนที่จะเขียนแบบขึ้นมาซักแผ่น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนก็คือ จะพิมพ์ลงไปในกระดาษขนาดเท่าไหร่และใช้มาตราส่วนเท่าไหร่ ย่อหรือขยายแต่โดยมากแล้วงานเขียนแบบก่อสร้างมักใช้มาตราส่วนย่อ คือขนาดในกระดาษที่สั่งพิมพ์ออกมานั้นเล็กกว่าขนาดก่อสร้างจริง
ขนาดของกระดาษมาตรฐาน ที่ใช้ในงานพิมพ์แบบก่อสร้าง
A0 841x1189 mm.
A1 594x841 mm.
A2 420x594 mm.
A3 297x420 mm.
A4 210x297 mm.
ความหมายของมาตราส่วน
1:100 คือ มาตราส่วนย่อในกระดาษวัดได้ 1มิลลิเมตร ระยะในหน้างานจริงเท่ากับ 100มิลลิเมตร เช่น ระยะในแบบวัดได้ 3เซนติเมตร หน้างานจริงก็คือ 3เมตร นั้นเอง มาตราส่วนย่ออื่นๆก็เช่นเดียวกันทั้ง 1:50 ก็คือมาตราส่วนย่อในกระดาษวัดได้ 1มิลลิเมตร ระยะในหน้างานจริงเท่ากับ 50มิลลิเมตร
5:1 คือ มาตราส่วนขยาย ในกระดาษวัดได้ 5มิลลิเมตร ในหน้างานจริงเท่ากับ 1มิลลิเมตร(ไม่นิยมใช้มาตราส่วนนี้ในงานก่อสร้าง)
เมื่อรู้จักขนาดของกระดาษที่จะพิมพ์แบบและมาตราส่วนย่อ-ขยายแล้ว เราจะมาทำการตั้งค่าหน้ากระดาษในโปรแกรมเพื่อจะได้ง่ายทุกครั้งที่จะสั่งพิมพ์แบบ โดยปรกติแล้วเราจะพิมพ์งานจากหน้า Model และ Layout ซึ้งมีความแตกต่างกัน
การสั่งพิมพ์แบบจาก Model
หากเราเขียนแบบใน Autocad ด้วยสเกลเมตร(หมายถึงลากเส้นไป 1 วัดได้ 1เมตร) การพิมพ์แบบนั้นทำได้โดยการสร้างกรอบสี่เหลี่ยมเท่ากับขนาดกระดาษที่เราจะพิมพ์ ในตัวอย่างจะใช้กระดาษมาตฐานขนาด A3 พิมพ์ในมาตราส่วนย่อ 1:100 พิมพ์ rec>enter> คลิ๊กซ้ายเลือกจุดเริ่มต้น แล้วลากไปทางขวาบน แล้วพิมพ์ d>enter>42.0>enter>29.7>enter จะได้ขนาดกระดาษ A3 ที่ใช้พิมพ์ในมาตราส่วน 1:100
หลังจากนั้นก็ใด้กรอบสี่เหลี่ยมอันนี้มาใช้ในการพิมพ์ แต่ต้อง offset กรอบสี่เหลี่ยมนี้ก่อนเพราะกรอบสี่เหลี่ยมนี้เป็นขนาดกระดาษ A3 จริงจะต้องเว้นระยะจากขอบกระดาษมาด้วย เป็นเส้นพื้นที่การพิมพ์ด้วยคำสั่ง offset พิมพ์ o>enter>1>enter เลือกเส้นกรอบ แล้วคลิ๊กอีกทีในกรอบ ก็จะมีเส้นที่ offset จากขอบกระดาษ เป็นพื้นที่การพิมพ์
พิมพ์แบบ Autoacad ลงกระดาษ A3 Scale 1:100
มาเริ่มการพิพ์ลงกระดาษกันเลย กดแป้นพิมพ์ Ctrl+p จะมีหน้าต่างการพิมพ์ขึ้นมา
1.printer/ptotter เลือกเครื่องพิมพ์ที่เราจะสั่งพิมพ์
2.Paper size =A3 เลือกขนากระดาษ
3.Plot scale เลือกมาตราส่วนในการพิมพ์ 1mm. : 0.1 ดูตามรูปภาพประกอบ
4.Plot style table เลือกพล็อตสไตท์(การตั้งค่า PLot style อ่านที่นี่)
5.Drawing orientation ติ๊กเลือกที่ Landscape
6.Plot area เลือกพื้นที่การพิมพ์ เลื่อนไปที่ windows แล้วคลิ๊กเลือกที่ปุ่ม windows ข้างขวา ไปเลือกพื้นที่การพิมพ์ที่เราตั้งไว้ตอนแรก
7.กด ok เพื่อสั่งพิมพ์
เรียบร้อยแล้ว แบบที่เราสั่งพิมพ์ออกไปในกระดาษขนาด A3 มาตราส่วน 1:100
วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
maxsite varity
หาไปนนานเลยทีเดียวครับสำหรับผมและชาว maxsite ก็หยุดนานเลยก็ว่าได้ ของขวัญปีใหม่ maxsite
มาดู : อัพเดทล่าสุด 27/05/2554
ก็ไม่ได้หรูอะไรนะครับแค่อยากแจกเฉยๆๆ ใครเอาไปใช้ก็ปรับเพิ่มเติมนะครับ สำหรับ maxsite ตัวนี้ให้เอาไปใช้กันแบไม่กั๊ก พร้อม Url แบบสั้นๆๆไปเลยทีเดียวนะครับ
ผู้แจกจ่าย : นายอั๋น
ขอขอบคุณ : พี่ฉุย และ พี่แมก ( maxsite )
สวัสดีปีใหม่ครับพี่น้องชาวไทย
ตอบคำถาม :
ท่าน kawmthoj.et@hotmail.com : คำถาม
http://www.dek-ac.com/d-sign2u/knowledge28-เปิดโมดูล-Mod-rewrite-ในเครื่องเราเอง-ใน-Appserv.html
และไฟล์ knowledge.html ไม่มีแน่นอนครับ เพราะผมทำการ rewrite url นั่นเองหากท่านติดตั้งในเครื่องหรือที่อื่นหากติดตั้งไว้ใน root อื่นไม่ใช่พาสหลัก เช่นในเครื่องท่านเก็บไว้ที่
C:\AppServ\www\maxsite
ท่านต้องไปแก้ไขไฟล์ .htaccess
มาดู : อัพเดทล่าสุด 27/05/2554
ก็ไม่ได้หรูอะไรนะครับแค่อยากแจกเฉยๆๆ ใครเอาไปใช้ก็ปรับเพิ่มเติมนะครับ สำหรับ maxsite ตัวนี้ให้เอาไปใช้กันแบไม่กั๊ก พร้อม Url แบบสั้นๆๆไปเลยทีเดียวนะครับ
วิธีลง :
1. นำฐานข้อมูลยัดเข้าไปใน phpmyadmin
2.ตั้งค่าไฟล์ includes/config.in.php
includes/config-tag.phpincludes/config-download.phpmodules\knowledge/_config-rating.phpmodules\knowledge/ _config-rating.phpmodules\clip/_config-rating.phpmodules\clip/ _config-rating.phpmodules\blog/_config-rating.phpmodules\blog/ _config-rating.php
รหัส admin สำหรับเข้าระบบ
http://ชื่อเว็บ.com/index.php?name=admin
user : admin
pass : admin
ดาวน์โหลดที่ : http://www.mediafire.com/?e1e7w8c50mmqtf8 ไฟล์ DB
http://www.mediafire.com/?8sfougd478u6wvc PHP
โหลดทั้งสองลิ้งเลยนะครับ หากใครเห็นว่าเว็บผมมีประโยชน์ก็ทำลิ้งกลับมาไม่ว่ากันนะครับดาวน์โหลดที่ : http://www.mediafire.com/?e1e7w8c50mmqtf8 ไฟล์ DB
http://www.mediafire.com/?8sfougd478u6wvc PHP
ผู้แจกจ่าย : นายอั๋น
ขอขอบคุณ : พี่ฉุย และ พี่แมก ( maxsite )
สวัสดีปีใหม่ครับพี่น้องชาวไทย
ตอบคำถาม :
ท่าน kawmthoj.et@hotmail.com : คำถาม
ต้องตรวจสอบก่อนนะครับว่า ท่านได้ทำตามกระทู้นี้ยังทำไมหลังจากติดตั้งเสร็จ เมื่อจะเข้าเมนู หรือหัวข้อใดก็ตาม เช่น กดเข้าไปที่หัวข้อ บทความ จะลิ้งค์หาไฟล์ ชื่อ knowledge.html แต่หน้าเพจจะแสดงหน่าของ Server The AppServ Open Project - 2.5.10 for Windows แทนล่ะครับ ไม่เข้าใจ และไฟล์ knowledge.html ก็ไม่มีด้วย ค้นหาแต่ก็ไม่เจอเลย
http://www.dek-ac.com/d-sign2u/knowledge28-เปิดโมดูล-Mod-rewrite-ในเครื่องเราเอง-ใน-Appserv.html
และไฟล์ knowledge.html ไม่มีแน่นอนครับ เพราะผมทำการ rewrite url นั่นเองหากท่านติดตั้งในเครื่องหรือที่อื่นหากติดตั้งไว้ใน root อื่นไม่ใช่พาสหลัก เช่นในเครื่องท่านเก็บไว้ที่
C:\AppServ\www\maxsite
ท่านต้องไปแก้ไขไฟล์ .htaccess
### ปรับแต่ง url ของ maxsite ด้วย Mod rewrite by www.dek-ac.comRewriteEngine On##RewriteBase /maxsite/
ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ
ส่วนเรื่อง DB ตามด้านบนนะครับ
ส่วนเรื่อง DB ตามด้านบนนะครับ
วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วิธีการแปลงเลขอารบิกเป็นเลขไทย ในโปรแกรม Microsoft Excel
10 ก.พ.53 เรื่องนี้ควรเขียนเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ เพราะ ผศ.ดร.จินดา งามสุทธิ ท่าน อธิการบดี รณรงค์ให้ใช้เลขไทยในบันทึกข้อความ แต่ความไม่ชินและความมักง่าย ทำให้ผมเลือกใช้วิธีแปลงเลขอารบิกด้วยการ replace ถึง 10 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนตัวเลขทีละตัว แต่ถ้าให้อัตโนมัติก็จะเข้าไปกำหนดใน autocorrect สำหรับแต่ละตัวเลข แต่ใช้ได้กับเลขหลักเดียว ก็ช่วยได้เพียงระดับหนึ่ง (วันนี้ผมเคลียร์งานเขียนแผน km ของมหาวิทยาลัยล้อกับโครงการอบรมประกันฯของ อ.ศศิวิมล แรงสิงห์ เสร็จเร็วกว่าที่คาด) จึงคิดว่าถึงเวลาที่ไม่ควรผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป เมื่อศึกษาวิธีการแทนที่ตัวเลขด้วย macro ที่เขียนแบบใช้ใน word กับ excel เผยแพร่ใน thaiall.com/vb เพราะ macro ใช้ visual basic script ใน module สำหรับการประมวลผล
แหล่งเก็บ macro มี 2 แบบคือ ใน normal หรือ ใน document ถ้าเป็นแบบใน document เมื่อสร้างเอกสารก็จะติดเอกสารไป เปิดเอกสารใหม่จะไม่พบ macro เดิม แต่ถ้าเป็นแบบใน normal จะมี macro ติดอยู่ใน template ของ word ทำให้เปิด word แล้วเรียกใช้ macro ได้ทุกครั้ง สำหรับวิธีสร้างและใช้ macro นั้นเริ่มต้นด้วยการคัดลอกโค้ดไปใส่ใน module ของ macro แล้วสั่ง run ใน macro เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย ซึ่งโค้ดได้สั่งแทนที่ทั้ง 10 ตัวอักษรเป็นเลขไทยอัตโนมัติ การนำไปใช้สำหรับ word กับ excel ต่างกันเล็กน้อย ถ้านำไปใส่ไม่ได้ โปรดติดต่อช่างเทคนิคใกล้บ้าน เพราะส่งเข้า word ครั้งเดียว แต่ใช้งานได้ตลอดไป .. ต่อไปผมก็จะเริ่มใช้แล้ว เพราะ replace 10 ครั้ง ไม่ดีแน่
source code : macro of word
การแปลงเลขใน excel (ใช้คำสั่ง จัดรูปแบบเซลล์)
1. ถ้าเป็น excel ไม่ต้องใช้ function ให้กด Ctrl-A แล้วกำหนด format ของ cell ใน Number, Custom เป็น [$-D07041E]0 ก็จะทำให้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย
2. ถ้าต้องการมี , กั้นหลักพันก็ใช้ [$-D07041E]#,###,##0 อะไรทำนองนี้ ok ไหมครับ ตามรูปเลยครับผม
แหล่งเก็บ macro มี 2 แบบคือ ใน normal หรือ ใน document ถ้าเป็นแบบใน document เมื่อสร้างเอกสารก็จะติดเอกสารไป เปิดเอกสารใหม่จะไม่พบ macro เดิม แต่ถ้าเป็นแบบใน normal จะมี macro ติดอยู่ใน template ของ word ทำให้เปิด word แล้วเรียกใช้ macro ได้ทุกครั้ง สำหรับวิธีสร้างและใช้ macro นั้นเริ่มต้นด้วยการคัดลอกโค้ดไปใส่ใน module ของ macro แล้วสั่ง run ใน macro เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย ซึ่งโค้ดได้สั่งแทนที่ทั้ง 10 ตัวอักษรเป็นเลขไทยอัตโนมัติ การนำไปใช้สำหรับ word กับ excel ต่างกันเล็กน้อย ถ้านำไปใส่ไม่ได้ โปรดติดต่อช่างเทคนิคใกล้บ้าน เพราะส่งเข้า word ครั้งเดียว แต่ใช้งานได้ตลอดไป .. ต่อไปผมก็จะเริ่มใช้แล้ว เพราะ replace 10 ครั้ง ไม่ดีแน่
source code : macro of word
Sub arabictothai()source code : macro of excel
For i = 0 To 9
With Selection.Find
.Text = Chr(48 + i)
.Replacement.Text = Chr(240 + i)
.Wrap = wdFindContinue
End With
Selection.Find.Execute Replace:=wdReplaceAll
Next
End Sub
Sub arabictothai()
For i = 0 To 9
Cells.Replace What:=Chr(48 + i), Replacement:=Chr(240 + i)
Next
End Sub
การแปลงเลขใน excel (ใช้คำสั่ง จัดรูปแบบเซลล์)
1. ถ้าเป็น excel ไม่ต้องใช้ function ให้กด Ctrl-A แล้วกำหนด format ของ cell ใน Number, Custom เป็น [$-D07041E]0 ก็จะทำให้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย
2. ถ้าต้องการมี , กั้นหลักพันก็ใช้ [$-D07041E]#,###,##0 อะไรทำนองนี้ ok ไหมครับ ตามรูปเลยครับผม
บังคับให้ข้อมูลที่พิมพ์เพิ่มลงไปไม่ซ้ำกับข้อมูลที่มีอยู่
บังคับให้ข้อมูลที่พิมพ์เพิ่มลงไปไม่ซ้ำกับข้อมูลที่มีอยู่
Posted by Surachet D. on 05/Feb/2011 @ 10:54 | MS Excel, Using IT for Business
Tags: COUNTIF, Data Validation, Excel 2007, ข้อความ Error, ข้อมูลไม่ซ้ำ
Tags: COUNTIF, Data Validation, Excel 2007, ข้อความ Error, ข้อมูลไม่ซ้ำ
ความต้องการ: บังคับให้ข้อมูลที่พิมพ์เพิ่มลงไปไม่ซ้ำกับข้อมูลที่มีอยู่
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง: Data Validation และ COUNTIF
การเรียกใช้งาน:
Data > Data Validation > Data Validation > Settings > Validation criteria > Allow: > Custom
สำหรับฟังก์ชั่น COUNTIF ดูได้ที่ Formulas > More Functions > Statistical > COUNTIF
คำอธิบาย: สมมุติว่าเรามีตารางข้อมูลชุดหนึ่งอยู่บน Excel และเราไม่อยากให้ผู้ใช้งานเพิ่มข้อมูลที่ซ้ำลงไป (เนื่องจากมีข้อมูลนั้นอยู่แล้ว) เราสามารถประยุกต์ใช้ฟังก์ชั่น Data Validation และ COUNTIF มาช่วยได้ครับ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นนะครับ เรามี List รายชื่อของลูกค้าอยู่ เช่น Company A, Company B, Company C อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อยู่ในคอลัมน์ A และเมื่อไหร่ก็ตาม ถ้ามีการเพิ่มข้อมูลเช่น Company A ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ให้ Excel มันแจ้งเตือนและบังคับว่าไม่ให้เพิ่มข้อมูล เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีอยู่แล้ว เราสามารถทำได้ดังนี้ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม:
ฟังก์ชัน COUNTIF: http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HP010069840.aspx
ตัวอย่าง VDO แสดงการใช้งาน:
การใช้งานฟังก์ชั่น COUNTIF
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้อง: Data Validation และ COUNTIF
การเรียกใช้งาน:
Data > Data Validation > Data Validation > Settings > Validation criteria > Allow: > Custom
คำอธิบาย: สมมุติว่าเรามีตารางข้อมูลชุดหนึ่งอยู่บน Excel และเราไม่อยากให้ผู้ใช้งานเพิ่มข้อมูลที่ซ้ำลงไป (เนื่องจากมีข้อมูลนั้นอยู่แล้ว) เราสามารถประยุกต์ใช้ฟังก์ชั่น Data Validation และ COUNTIF มาช่วยได้ครับ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นนะครับ เรามี List รายชื่อของลูกค้าอยู่ เช่น Company A, Company B, Company C อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ อยู่ในคอลัมน์ A และเมื่อไหร่ก็ตาม ถ้ามีการเพิ่มข้อมูลเช่น Company A ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ให้ Excel มันแจ้งเตือนและบังคับว่าไม่ให้เพิ่มข้อมูล เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีอยู่แล้ว เราสามารถทำได้ดังนี้ครับ
- เลือกคอลัมน์ A ที่มี List รายชื่อของบริษัทลูกค้าเราอยู่ (Highlight เลือกทั้งคอลัมน์)
- ไปที่ Data Validation
- ที่หน้าต่าง Tab “Settings” ใน List ของ Allow เลือกไปที่ Custom
- ที่ช่อง Formula ให้ใส่สูตร =COUNTIF($A:$A,A1)<2(*** Excel จะ Apply สูตรนี้ให้กับทุก ๆ เซลโดยอัตโนมัติ ถ้าเราไปดูที่เซล A2 คลิกเลือก Data Validation ดูก็จะเห็นเป็น =COUNTIF($A:$A,A2)<2 ที่ A3 ก็จะเป็น =COUNTIF($A:$A,A3)<2 อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ )สูตร COUNTIF ดังกล่าวนี้ มันจะตรวจสอบข้อมูลตลอดในคอลัมน์ A แล้วก็จะนับว่ามีข้อมูลที่ตรงกันกับข้อมูลในเซล A1 อยู่เท่าไหร่บ้าง เช่นถ้าเรามี Company A อยู่ 2 ที่ มันก็จะนับได้เป็น 2 ซึ่งจะทำให้เงื่อนไขนี้ส่งค่ากลับมาเป็น FALSE (ไม่ผ่านตามเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ใน Data Validation) Excel ก็จะไม่ยอมให้เราทำงานต่อ ถ้ามี Company A แค่ 1 ที่มันก็จะนับออกมาได้แค่ 1 ก็จะผ่านเงื่อนไขดังกล่าว
- จากนั้นถ้าเราพยายามที่จะใส่ข้อมูลที่มันมีอยู่แล้ว Excel ก็จะแจ้งเตือน Error ขึ้นมาให้ เราสามารถปรับเปลี่ยน ข้อความของ Error ได้ที่ Tab “Error Alert” หรือจะเปลี่ยนเงื่อนไขการบังคับก็ได้ที่ตรง Style: โดยค่า Default มันจะเป็น Stop ก็คือถ้าเราป้อนค่าซ้ำ Excel จะไม่ให้เราทำงานต่อ ถ้าเลือกเป็น Warning เราจะได้รับเป็นข้อความเตือนขึ้นมา ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าต้องการทำงานต่อหรือไม่ และถ้าเป็น Information ก็จะมีข้อความแจ้งขึ้นมา แต่เราสามารถทำงานต่อได้เลย
รายละเอียดเพิ่มเติม:
ฟังก์ชัน COUNTIF: http://office.microsoft.com/th-th/excel-help/HP010069840.aspx
ตัวอย่าง VDO แสดงการใช้งาน:
การใช้งานฟังก์ชั่น COUNTIF
วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วิธีแปลงไฟล์ mkv.to avi. โดยที่ยังมีซับอยู่
วิธีแปลงไฟล์ mkv.to avi. โดยที่ยังมีซับอยู่
เหตุผลเบื้องต้น - ผมชอบดู anime รวมทั้งนำภาพมาแต่งเล่น และพบว่าปัจจุบันมี anime ที่เป็น 1280x720 h264 จำนวนมาก แน่นอนว่า resolution ที่สูง ภาพย่อมละเอียดมากกว่า มันล่อตาล่อใจ ให้ต้องการมากกว่า 704x408 แต่เพราะคอมที่ใช้เป็นคอมรุ่นเก่า RAM น้อย แม้ปัจจุบันใช้ K-lite 4.7.5 แต่การเล่นไฟล์ HD .mkv ย่อมเกิดอาการกระตุกกระจาย การแปลง MKV (h264) เป็น AVI (XviD) จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะ - ช่วยให้เล่นไฟล์ video ลื่น ไม่กระตุก - ลดขนาดไฟล์ (เพราะลด bitrate ลดบางส่วน แต่ยังดูได้ลื่น ไม่ขาดตอน และไม่เสียอรรถรส) - แปลง resolution ตามใจฉัน เช่น 1440x1080 --->1024x768 - อย่าลืมว่า DVD player บางเครื่องเปิด avi ได้ แต่เปิด mkv ไม่ได้ ผลจากการทดลองแปลง -จาก MKV(h264) 960x720 960x720 bit rate 1800 Kbps Frame rate 23.976 fps x264 audio AAC sub ass แปลงเป็น AVI(XviD) 960x720 bit rate 1201 Kbps Frame rate 23.976 fps audio mp3 ฝังซับ ขนาดไฟล์ลดจาก 349 Mb เหลือ 221 Mb เล่นด้วยโปรแกรมเดียวกัน Media Player Classic - Home Cinema 1.2.1008 จากเคยกระตุกตลอด ตอนเป็น .mkv ก็ลื่นตลอด เมื่อเป็น .avi ประโยชน์เพิ่มเติม -ได้ไฟล์ .aac .mp3 สามารถนำไปตกแต่งต่อ เช่น ตัดเป็น OP EP หรือบทพูดประทับใจ (tool ที่ผมใช้ตัดต่อเพลง คือ Nero WaveEditor 3.10.1 ส่วน tool ที่ใช้ Rip/convert โดยเฉพาะ ผมชอบ Xilisoft Audio convertor) -ได้ไฟล์ sub มาแปลไทย หรือแปลง font ต่อ Tool ที่ผมใช้ - VirtualDubMod 1.5.10.2 - vsfilter.dll จาก K-lite Codec (ปกตินักดู anime ต้องมีไฟล์นี้ซ่อนอยู่ๆ แล้ว) - MKVtoolnix (จริงๆ แล้วตัวที่ต้องมีก็คือ MKVExtractGUI 1.6.0 แค่นั้นเอง) - avc2avi (แปลง .h264 เป็น .avi) - Xilisoft Audio Convertor (แปลง .AAC เป็น .mp3) Tool เสริมที่อาจใช้ - Vobsub (ใช้ subresync เปลี่ยนแปลงสกุลไฟล์ sub - แต่จริงๆ แล้วไม่จำเป็น) ผมคงไม่ลงวิธีการ เพราะมี 2 เว็ป ที่ดูสองหน้านี้แล้ว แปลงไฟล์สำเร็จแน่นอน 99% นั่นคือ http://www.serv2thai.com/forum/link/out.php?url=http://anime.nickistre.net/blog_entry/anime/2007/03/03/mkv_h_264_codec_to_avi_xvid_codec_conversion http://www.serv2thai.com/forum/link/out.php?url=http://www.thaidvd.net/forum/upload/index.php?act=ST&f=36&t=127180 (ส่วนใหญ่ผมทำตาม เว็ปบน ยกเว้นใส่ sub ผมใช้วิธีเว็ปล่าง) -ไฟล์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เว้น Xilisoft Audio Convertor สามารถโหลดจาก link ในเว็ปทั้งสอง -อย่าเห็นว่าเป็น tool เก่าๆ (2006) แล้วจะห่วย เพราะมันใช้งานได้เป็นอย่างดี น่าพึงพอใจ -วิธีนี้เป็นเพียงวิธีหนึงที่เขาใช้กันตั้งแต่ปี 2006 ปัจจุบันมีวิธีอื่นอีกหลายวิธี อย่างไรก็ตามวิธีนี้ tool ทั้งหมดทุกตัวโหลดฟรี ไฟล์เล็ก ทำงานเร็ว (เพียงแต่หลายขั้นตอนหน่อย) (ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม.) |
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
วิธีใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ Format Factory แปลงครอบจักรวาล
โปรแกรมโหลดได้ที่นี่ >> http://www.it4x.com/forum/index.php?topic=173.msg176
แปลงไฟล์เป็นนามสกุลต่างๆได้ดังนี้
Video >> All to MP4/3GP/AVI/WMV/FLV/MPG/VOB/SWF/MOV
Audio >> All to MP3//WMA/AAC/MMF/AMR/M4A/OGG/MP2/WAV
Picture >> All to JPG/PNG/ICO/BMP/GIF/TIF/PCX/TGA
All to Mobile Divice, PSP, IPhone
All to RoOM Device DVD, CD, ISO
Source files support RMVB.
คุณสมบัติเด่นของโปรแกรมนี้
1. รองรับการแปลงไฟล์ วีดีโอ รูปภาพ เพลง อื่นๆอีกมากมาย
2. ซ่อมแซมไฟล์วีดีโอไฟล์เสียงที่ชำรุดคุณสมบัติของ FormatFactory
3. ลดขนาดรูปแบบเสียงได้
4. รองรับ iphone,ipod รูปแบบ multimedia file formats
5. แปลงรูปภาพสามารถ ซูม หมุน ภาพได้
6. DVD Ripper
7. รองรับ 30 ภาษา
8. ข้อสำคัญ คือ ฟรีแวร์ 100%
วิธีการใช้งานโปรแกรม ขอยกตัวอย่างนะครับ เช่น ต้องการแปลงไฟล์ FLV ให้เป็น MP3
ก็ เลือก เสียง > ทั้งหมดไปยัง MP3
คลิ๊ก เพิ่มแฟ้ม แล้วก็เลือกไฟล์ FLV หรือไฟล์ที่เราต้องการจะแปลงนั่นเอง
ถ้าอยากปรับแต่งคุณภาพเสียงของไฟล์ ก็คลิ๊ก การตั้งค่าขาออก
หรือจะไม่ปรับแต่งอะไรก็ได้ ก็คลิ๊ก ตกลง
ทีนี้ก็เริ่มแปลงไฟล์จากให้เป็น MP3 กัน ได้เลย
โดยคลิ๊ก เริ่ม
แล้วก็รอ... จนครบ 100%
พอครบ 100% แล้วก็เข้าไปดูไฟล์ที่แปลงเป็น MP3 แล้ว
โดยคลิ๊ก โฟลเดอร์ปลายทาง
แปลงไฟล์เป็นนามสกุลต่างๆได้ดังนี้
Video >> All to MP4/3GP/AVI/WMV/FLV/MPG/VOB/SWF/MOV
Audio >> All to MP3//WMA/AAC/MMF/AMR/M4A/OGG/MP2/WAV
Picture >> All to JPG/PNG/ICO/BMP/GIF/TIF/PCX/TGA
All to Mobile Divice, PSP, IPhone
All to RoOM Device DVD, CD, ISO
Source files support RMVB.
คุณสมบัติเด่นของโปรแกรมนี้
1. รองรับการแปลงไฟล์ วีดีโอ รูปภาพ เพลง อื่นๆอีกมากมาย
2. ซ่อมแซมไฟล์วีดีโอไฟล์เสียงที่ชำรุดคุณสมบัติของ FormatFactory
3. ลดขนาดรูปแบบเสียงได้
4. รองรับ iphone,ipod รูปแบบ multimedia file formats
5. แปลงรูปภาพสามารถ ซูม หมุน ภาพได้
6. DVD Ripper
7. รองรับ 30 ภาษา
8. ข้อสำคัญ คือ ฟรีแวร์ 100%
วิธีการใช้งานโปรแกรม ขอยกตัวอย่างนะครับ เช่น ต้องการแปลงไฟล์ FLV ให้เป็น MP3
ก็ เลือก เสียง > ทั้งหมดไปยัง MP3
คลิ๊ก เพิ่มแฟ้ม แล้วก็เลือกไฟล์ FLV หรือไฟล์ที่เราต้องการจะแปลงนั่นเอง
ถ้าอยากปรับแต่งคุณภาพเสียงของไฟล์ ก็คลิ๊ก การตั้งค่าขาออก
หรือจะไม่ปรับแต่งอะไรก็ได้ ก็คลิ๊ก ตกลง
ทีนี้ก็เริ่มแปลงไฟล์จากให้เป็น MP3 กัน ได้เลย
โดยคลิ๊ก เริ่ม
แล้วก็รอ... จนครบ 100%
พอครบ 100% แล้วก็เข้าไปดูไฟล์ที่แปลงเป็น MP3 แล้ว
โดยคลิ๊ก โฟลเดอร์ปลายทาง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)