วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เคล็ดลับสู่ความร่ำรวย

เคล็ดลับสู่ความร่ำรวย

เราจะมารู้กันถึงเรื่องเคล็ดลับที่ทำอย่างไรให้เรามีความสุขและความร่ำรวย ทำอย่างไรให้เราอยู่อย่างมีความสุขในการครองเรือน ทำอย่างไรให้เรามีทรัพย์สมบัติ หรือกิจการงานที่เจริญรุ่งเรืองได้ การกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติทั้งสิ้น  เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน  หรือมีอยู่ 2 ฝ่าย คือ
  1. ฝ่ายหนึ่งทำให้เรามีความสุขที่ละเอียด  ยั่งยืนและถาวร  สามารถทำให้เราหลุดพ้นจากความทุกข์ หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารหรือหลุดพ้นจากการเกิด เมื่อเราไม่เกิด เราจึงไม่มีภพภูมิที่จะอยู่ เพราะภพภูมิหรือการเกิดทำให้เราเป็นทุกข์ ธรรมชาติฝ่ายนี้สามารถทำให้เราหลุดพ้นเข้าสู่นิพพานภูมิได้   ธรรมชาติฝ่ายนี้ก็คือธรรมะนั่นเอง ธรรมชาติฝ่ายนี้สามารถทำให้เรามีความสุขที่แท้จริง และยั่งยืนปราศจากความทุกข์ ปราศจากกิเลสแต่บุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ต้องการความสุขแบบนี้ ต้องมีการเสียสละคือการไม่มีกิเลสอยู่ในใจ ค่อยๆกำจัดกิเลสนั้นออกไปเสีย อันนี้ต้องละทุกอย่าง ละการครองเรือน  ละจากการทำมาหากินที่ต้องเลี้ยงชีพตัวเอง  และครอบครัวเพื่อจะเข้ามาศึกษาอยู่กับธรรมชาติฝ่ายนี้ให้กลมกลืน  เพราะฉะนั้นธรรมชาติฝ่ายนี้ ก็ลำบากหรือยากสักนิดหนึ่ง  ที่เราจะสละในสิ่งที่กิเลสมันบีบคั้น  
  2. ยังมีธรรมชาติอีกฝ่ายหนึ่ง  ที่ทำให้เรามีความสุขและความร่ำรวยมีสุขภาพที่ดีได้ และมีสุขภาพที่ไม่ดีได้ แต่ธรรมชาติฝ่ายนี้เป็นความสุขที่ไม่แท้จริง เป็นความสุขที่เกิดจากกิเลส เหมาะสำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่  ยังต้องการความสุขในเรื่องของกามคุณ รูปรสกลิ่นเสียง  ก็เลยต้องอยู่กับธรรมชาติฝ่ายนี้ให้กลมกลืน  ธรรมชาติฝ่ายนี้เป็นหลักของการหยุดนิ่งและเคลื่อนไหว   หยุดนิ่งก็คือดิน หิน ต้นไม้  ส่วนเคลื่อนไหวก็มีน้ำ และลม     เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่กับธรรมชาติฝ่ายนี้ให้สมดุลเหมาะสม และกลมกลืนให้ได้   สถานที่ใด  ที่เราอยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงงานหรือร้านค้า  เราต้องหาจุดที่หยุดนิ่งให้ได้   หาจุดที่เคลื่อนไหวให้ได้    จุดไหนที่เคลื่อนไหวก็ให้เคลื่อนไหว  จุดไหนที่หยุดนิ่งก็ให้มันหยุดนิ่ง ตัวอย่างเช่น    จุดไหนเคลื่อนไหว  ให้เอาตู้ปลา  พัดลม  ทีวี ไปตั้งวางไว้ จุดไหนที่หยุดนิ่งก็ให้เอาโต๊ะ โซฟาหรือสิ่งที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวไปตั้งเสีย  อันนี้เป็นการแก้ไขให้ในบ้าน  โรงงานหรือร้านค้าของเรา  ทำให้มันสมดุลและกลมกลืนได้ การที่จะดูว่าจุดไหนหยุดนิ่งจุดไหนเคลื่อนไหวนั้น   ก็จะมีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่งคือ    ให้เราไปยืนอยู่กลางบ้าน ร้านค้า หรือโรงงานก็แล้วแต่   แล้วหันหน้าออกหน้าบ้าน   ด้านขวามือของเราจะเป็นจุดที่หยุดนิ่งทั้งหมด   ส่วนด้านซ้ายมือเป็นจุดที่เคลื่อนไหว เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่ง    เมื่อเราจะสร้างบ้านควรติดตั้งระบบไฟ  และเดินสายไฟ    โดยใช้หลักการเดียวกับการหยุดนิ่งและเคลื่อนไหวดังกล่าว คือทางด้านขวามือของเราควรติดตั้งระบบไฟและเดินสายไฟ  ส่วนด้านซ้ายมือของเราควรติดตั้งมิเตอร์น้ำและเดินระบบท่อประปา ก็จะสามารถทำให้เกิดการสมดุลและกลมกลืนได้
ต่อมาเรื่องทิศทางก็เป็นหลักสำคัญ ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวเหมือนกัน  ทิศโดยปกติแล้วจะมีอยู่ 8 ทิศด้วยกัน 
แต่สำหรับทิศที่ดีของแต่ละคนจะมีอยู่เพียง 4 ทิศเท่านั้น   และจะมีทิศที่ไม่ดีหรือทิศพิฆาตอยู่ 4 ทิศอยู่เช่นเดียวกัน 
              เพราะฉะนั้นเราต้องค้นหาตัวเองให้ได้   ว่าทิศไหนเป็นทิศที่ดีกับเรา ทิศไหนเป็นทิศที่พิฆาต หรือไม่ดีกับเรา เมื่อค้นหาทิศที่ดีได้แล้วเราพึงหันหน้าไปทางทิศที่ดีนั้น   อย่างเช่น เปิดร้านค้าร้านนั้นต้องหันหน้าไปทิศที่ดีและเหมาะสมกับเรา  โต๊ะทำงานหันหน้าไปทางทิศที่ดี   และทุกสิ่งทุกอย่างที่สำคัญเกี่ยวข้องกับเราให้หันไปทิศที่ดีและเหมาะสมกับเรา  แต่ทว่าบุคคลหนึ่งบุคคลใดไปซื้อบ้านหรือเปิดร้าน ในทิศที่ไม่ดีไม่เหมาะสมกัน จะให้เราขยับบ้านหรือร้านค้า  ย้ายบ้านหรือร้านค้านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้  เพราะฉะนั้นเราก็จะมีวิธีแก้เคล็ดอยู่ คือ
เราต้องไปแก้ด้วยเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราบูชาอยู่ เช่น พระประธานให้หันไปทิศที่ดีและเหมาะสมกับเราเสีย เพราะพระประธานหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ สามารถขยับได้เพราะมีขนาดไม่ใหญ่และหนักมากนัก หรือว่าบ้านใดไม่เอาพระประธานหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ให้เอาเตาแก๊สแทนก็ได้ ให้เอาเตาแก๊สหันไปทิศที่ดีและเหมาะสมกับเราเสีย เพราะเตาแก๊สก็เป็นสิ่งสำคัญ เตาแก๊สนี้สามารถดลบันดาลให้เรามีความสุขและความทุกข์ได้เช่นเดียวกัน เพราะว่าเตาแก๊สจะมีเทพเจ้าปกปักรักษาเตาแก๊สอยู่
                เพราะฉะนั้น นี่ก็เป็นหลักการส่วนหนึ่งที่เรานำมาแก้ซึ่งเป็นหลักของธรรมชาติหรือที่เรียกว่า ฮวงจุ้ย ที่นำมาแก้กับเราได้และเตาแก๊สสามารถที่จะทำให้คนในบ้านมีสุขภาพดีได้ หรือสุขภาพไม่ดีได้ สามารถที่ทำให้ทุกๆ สามปีมีคนตายในบ้านหนึ่งคน สามปีคนๆ ก็ได้  เพราะฉะนั้นเราต้องระมัดระวังเรื่องเตาแก๊สด้วย เตาแก๊สควรจะตั้งวางในทิศทางที่ดีเหมาะสมกับเราและไม่ควรตั้งวางตรงข้ามกับเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ห้องน้ำ อันนี้ไม่เหมาะไม่ควร ถ้าหากเราเกิดตั้งวางเตาแก๊สตรงข้ามกับเครื่องซักผ้า ตู้เย็น หรือห้องน้ำจะทำให้เราสุขภาพไม่ดีเกิดความเจ็บไข้กับคนในบ้านได้   อันนี้เราควรจะหลีกเลี่ยง

เคล็ดลับการหาทิศที่ดี ตามหลักการคำนวน(ฮวงจุ้ย) ตั้งแต่ปีเกิด (2479ถึง2526) แยกเป็นชายและหญิง

                    2479 ชวด      ช 1 5 2491  ชวด   ช 7  ญ  8 2503 ชวด      ช 4 2 2515  ชวด    ช 1 5     เหนือ              1
                             2480 ฉลู        ช 9 6 2492  ฉลู      ช 6 9 2504 ฉลู         ช 3 3 2516 ฉลู       ช 9 6      ใต้           3 + 9
               2481 ขาล       ช 87 2493  ขาล     ช 5 1 2505 ขาล       ช 2 4 2517  ขาล     ช 8 7      ออก
                             2482 เถาะ      ช 7 8 2494  เถาะ     ช 4 2 2506 เถาะ      ช1 5 2518   เถาะ    ช 7 8        ออกเฉียงใต้   4
     2483 มะโรง  ช 6 9 2495 มะโรง   ช 3 3 2507 มะโรง  ช 9 6 2519  มะโรง 6 9
       2484 มะเส็ง   ช 5 1 2496 มะเส็ง   ช 2 4 2508 มะเส็ง   ช 8 7 2520 มะเส็ง   ช 5 1
       2485 มะเมีย  ช 4 2 2497 มะเมีย   1 5 2509 มะเมีย   ช 7 8 2521   มะเมีย 4 2
                              2486 มะแม   ช 3 3 2498 มะแม    ช 9 6 2510  มะแม    ช 6 9 2522  มะแม  ช 3 3      ตก                   7
                                  2487 วอก     ช 2 4  2499 วอก      ช 8 7 2511 วอก        ช 5 1 2523 วอก     ช 2 4      ออกเฉียงเหนือ 2+8
                                  2488 ระกา    ช 1 5 2500 ระกา     ช 7 8 2512 ระกา       ช 4 2 2524  ระกา   ช 1 5     ตกเฉียงเหนือ  6
                                  2489 จอ        ช 9 6 2501 จอ         ช 6 9 2513  จอ         ช 3 3 2525  จอ       ช 9 6     ตกเฉียงใต้      5
            2490 กุน       ช 8 7 2502 กุน         ช 5 1 2514  กุน         ช 2 4 2526  กุน      ช 8 7


              เพราะฉะนั้นถ้าท่านเห็นว่าการอยู่ครองเรือนเพื่อที่จะมีความสุขความร่ำรวยขึ้นมา ท่านต้องสนใจธรรมชาติฝ่ายนี้ ถ้าเราอยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืนแล้ว เราก็จะพบกับความสุขได้  และอีกอย่างหนึ่งก็คือนอกเหนือจากหาทิศทาง หาที่ที่เหมาะสมกับเราดีแล้ว เรื่องที่สำคัญหากว่าเราจะสร้างบ้าน เราควรจะหาจุดที่จะลงเสาเอกเสาโทให้ได้ เรื่องลงเสาเอกเสาโทนี้จะทำให้เราร่ำรวยและมั่นคงได้  ตามหลักธรรมชาติหรือหลักฮวงจุ้ยแล้ว เราต้องอยู่กับธรรมชาติด้วยและต้องอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สมดุลและกลมกลืนกันด้วย
             เพราะฉะนั้นการจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเมื่อธรรมชาติสมดุลแล้วต้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างเหมาะสมกับเราด้วย ฉะนั้น การหาเสาเอกเสาโทเป็นการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์  อยู่อย่างสมดุลกับเรา  และช่วยดลบันดาลให้เราพบกับ ความร่ำรวยหรือความสำเร็จได้ ยังไงถ้าต้องการความสำเร็จ ความร่ำรวยตลอดถึงความรักความเข้าใจกันในการอยู่อาศัยหรือทำธุรกิจการค้า นอกจากต้องค้นหาสถานที่ปลูกบ้านแล้วเรื่องเสาเอกเสาโทเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หากท่านหาเสาเอกเสาโทได้เหมาะสมแล้วเท่ากับว่าท่านชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว
             เพราะฉะนั้นการหาเสาเอกเสาโทต้องศึกษาหรือถามหาผู้รู้ แต่ทว่าไม่มีผู้รู้และเราไม่มีเวลาไปศึกษา อันนี้เราก็จะบอกเคล็ดลับให้ไว้สักเล็กน้อย
ก่อนอื่นการที่จะสร้างบ้านหรือหาเสาเอกเสาโทนั้น   เราต้องดูสถานที่ก่อน ว่าที่ดินตรงนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ ถ้าเราปรึกษาผู้รู้ ผู้รู้ก็ปรึกษาถามหรือสื่อกับเจ้าที่ได้ ว่าที่ตรงนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ แต่ถ้าเราหาผู้รู้ไม่ได้หรือไม่แน่ใจในผู้รู้นั้นๆ เราพึงพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง จะมีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่งก็คือในการดูสถานที่นี้ ว่าที่แห่งนี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ เมื่อได้ที่แล้วให้เราไปยืนอยู่กลางที่ดินแปลงนั้นแล้วให้เราขุดหลุมสี่เหลี่ยมกว้างยาวและลึกเท่ากับหนึ่งฟุต แล้วให้ไปตัดใบตองมารองไว้ในหลุม พอรองเสร็จแล้วให้ไปตัดหญ้าคามาหนึ่งกำมือมัดเอาไว้แล้วใส่ลงไปในหลุมบนใบตองนั้น เราต้องทำเวลาประมาณหกโมงเย็นโดยไม่ต้องปิดปากหลุม  แล้วเมื่อถึงเวลาตีห้าหรือหกโมงเช้า  ของวันใหม่ให้เรามาดูและชิมที่  หรือชิมน้ำค้างที่อยู่บนหญ้าคานั้น  เมื่อชิมน้ำค้างที่อยู่บนหญ้าคาดูแล้วผลปรากฏว่ามีรสเค็ม ถือว่าที่ตรงนี้ไม่เหมาะสมกับเราและไม่ควรเอามาสร้างบ้าน แต่ถ้าน้ำค้างนั้นมีรสจืดก็ใช้สร้างบ้านได้แต่ไม่ดีมากนักแต่ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าชิมแล้วมีรสออกหวานแสดงว่าที่ตรงนั้นดีและเป็นที่ ที่เหมาะสมกับเราที่สุด ควรเอาไว้และสามารถสร้างบ้านได้ อันนี้เป็นเคล็ดลับในการที่เราจะดูว่าที่นั้นดีหรือไม่ดีและเหมาะสมกับเราหรือไม่
             เมื่อเราชิมที่ได้แล้วเราก็ต้องตีผังก่อน ว่าเราจะหาจุดที่จะลงเสาเอกเสาโทได้อย่างไร อันนี้ก็เช่นเดียวกันต้องไปปรึกษาผู้รู้เพื่อที่ผู้รู้จะได้ถามหรือสื่อกับเจ้าที่หรือพญานาค ให้มานอนขดให้ดูในสถานที่ของเราได้ แต่ถ้าเราไม่มีผู้รู้ที่ให้คำปรึกษาเราก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีที่ทำด้วยตัวเอง ก็จะมีเคล็ดลับและวิธีการดังนี้คือ ให้เราตีผังที่ดินทั้งหมดก่อนเมื่อตีผังแล้วให้เราดูว่าเจ้าของบ้านหรือตัวเราเองว่าเกิดในช่วงเดือนไหน   คือให้หาตำแหน่งพญานาคให้ได้  การหาตำแหน่งพญานาค
               ก็จะมีตัวอย่างวิธีการหาดังนี้ ถ้าเราเกิดเดือนหนึ่งหรืออ้าย เดือนสองหรือยี่ และเดือนสาม เมื่อเราไปยืนอยู่ตรงกลางที่แล้ว พญานาคจะหันหัวไปทางทิศใต้จะหันหางไปทิศเหนือ ตำแหน่งท้องพญานาคก็จะอยู่ทิศตะวันตก เพราะฉะนั้นให้เราเอา
ท้องพญานาคเป็นที่ลงเสาเอก ก็คือเมื่อเรายืนอยู่ตรงกลางที่  แล้วหันหน้าไปทางหน้าบ้านหรือทางทิศตะวันออก ด้านหลังเราก็จะเป็นทิศตะวันตกให้เราเอาหลุมข้างหลัง   ด้านทิศตะวันตกนี่แหละลงเสาเอก  แล้วเมื่อเราหันกลับมาแล้วหลุมทางด้านซ้ายมือของเราให้เป็นเสาโท  ถ้าเราเกิดเดือนสี่ ห้าและเดือนหก พญานาคจะหันหัวไปทางด้านทิศตะวันตกหันหางไปทางทิศตะวันออก ส่วนท้องพญานาคจะอยู่ที่ทิศเหนือก็ให้เอาทิศเหนือลงเสาเอก ส่วนคนที่เกิดเดือนเจ็ด แปดและเดือนเก้า พญานาคจะหันหัวไปทางด้านทิศเหนือ  หันหางไปทางทิศใต้  ส่วนท้องพญานาคจะอยู่ที่ทิศตะวันออก  ก็ให้เอาทิศตะวันออกลงเสาเอก  ส่วนคนที่เกิดเดือนสิบ สิบเอ็ดและเดือนสิบสอง พญานาคจะหันหัวไปทางด้านทิศตะวันออก หันหางไปทางทิศตะวันตก  ส่วนท้องพญานาคจะอยู่ที่ทิศใต้ ก็ให้เอาทิศใต้ลงเสาเอกเสาโท
              เพราะฉะนั้นเมื่อเรากำหนดหาหลุมเสาเอกเสาโทเรียบร้อยดีแล้ว ให้หาวันทำพิธีที่เหมาะที่ควรเพื่อลงเสาเอกเสาโทโดยมีเคล็ดลับและวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีการตั้งเสาเอกและเสาโท
ให้ค้นหาจุดศูนย์กลางของที่ที่จะสร้างบ้านแล้วให้ขุดหลุมเสาเอกทางด้านทิศที่เป็นมงคลแล้วให้หันเข้ากลับมาบ้าน
ให้เอาทางซ้ายของเสาเอกขุดหลุมเสาโท  การที่จะค้นหาทิศที่เป็นมงคลนั้นก็คือการหาตำแหน่งพญานาค ตำแหน่งพญานาคกำหนด 3 ตำแหน่ง ได้แก่  
  1. เศียรพญานาค  ให้ตั้งพระพุทธรูป ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์  
  2. ท้องพญานาค ห้องนอน  ห้องทำงาน  
  3. หางพญานาค ห้องบริวาร  ทิ้งขยะ หรือห้องน้ำ
การกำหนดเสาเอก  เสาโทให้ใช้ตำแหน่ง ท้อง พญานาค อันหมายถึงการมีสุขสมบูรณ์  เช่น เจ้าของบ้านเกิดวันที่  2 สิงหาคม  2512  ตรงกับวันเสาร์ แรม 5 ค่ำ เดือน 8  ตำแหน่งท้องพญานาคอยู่ทางทิศตะวันออก ให้กำหนดเสาเอกตรงทิศตะวันออกของบ้าน (  การกำหนดทิศให้อยู่จุดกลางบ้าน  )
วิธีบูชาเสาเอกและเสาโท
          ให้เอาต้นกล้วย  ๒  ต้น  ความสูงราว  ๑  ศอกควรเลือกต้นที่แตกใบอ่อน  ๓ - ๔  ใบ  ต้นอ้อย  ๒  ต้นความสูงพอประมาณ  ผ้าสามสี  ๒  พับ  ผ้าซิ่น  ๑  ผืน  ผ้าขาวม้า  ๑  ผืน  ( ของใหม่ทั้งหมด )  พวงมาลัยดอกดาวเรือง  ความยาวพอประมาณกับขนาดเสา  ๒  พวงให้นำไปประดับที่เสาเอกและเสาโท  ( เสาเอกให้ใช้ผ้าขาวม้า เสาโทให้ใช้ผ้าซิ่น  )
สิ่งของที่จะบรรจุลงในหลุมเสาเอกและเสาโท
          ได้แก่ ไม้มงคล  คือใบเงิน  ใบทอง  ใบนาก  ใบทับทิม  และใบชัยพฤกษ์  อย่างละ ๑๘  ใบ  ลูกแก้ว  ๑๘ ลูก  ไม้มงคล ๙  ชนิดสำหรับตอกก้นหลุมหรือบริเวณด้านข้างหลุมเสาเอก  เงินเหรียญ  ๑๐  เหรียญ  กุหลาบ ดอกมะลิ  ดอกรัก  รวมกัน ๑ กระทง  ( เฉพาะกลีบ )
สิ่งของสำหรับบวงสรวงและเซ่นสังเวย
          ได้แก่  บายศรีปากชาม ๑ คู่  หัวหมูครบเครื่อง ๑ หัว  เป็ด ๑ ตัว  ไก่ ๑ ตัว  ฟักทองแกงบวด  ขนมต้มแดง ต้มขาว  มะพร้าวอ่อน ๑ ลูก  กล้วยน้ำว้าสุก ๑ หวี  กล้วยหอม ๑ หวี  สับปะรด ๑ ลูก  และผลไม้ตามความต้องการ ๔ - ๕ ชนิด  ยกเว้นละมุด  มังคุด  บ๊วย  ท้อ  ฯลฯ  และชื่อไม่เป็นมงคลอื่น ๆ  ข้าวตอก ๑ กระทง  งาและถั่วคั่วรวมกัน ๑ กระทง  งาดิบ  ๑ กระทง  ถั่วดิบ ๑ กระทง  อ้อยควั่น ๑ จานโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดง น้ำชา ๑ ชุด  น้ำเปล่า ๑ ขวด  หมากพลู  บุหรี่ ๑ พาน  นมข้น  ๑ ถ้วยแก้ว  เนย ๑ ชิ้นใหญ่  สุราขาว  ๑ขวด
อุปกรณ์ประกอบที่ใช้ในการยกเสาเอกเสาโท
          โต๊ะสำหรับตั้งเครื่องบูชาปูด้วยผ้าขาว  ขันน้ำมนต์  แป้งผสมน้ำ ๑ ถ้วย  น้ำอบ ๑ ขวด  เทียนขาวเล่มใหญ่สำหรับทำน้ำมนต์ ๑ เล่ม  เทียนขาวเล่มเล็กสำหรับตั้งเชิงเทียน ๑ คู่  ธูปหอม  ๙  ดอก  ให้ตั้งโต๊ะเซ่นหน้าหลุมและให้ใกล้ปากหลุม   ให้เจ้าของบ้านตกแต่งเสาเอกและเสาโท  เสาเอก ให้ใช้ต้นกล้วย  ต้นอ้อย  ผูกด้วยผ้าสามสี  และผ้าขาวม้า ตามด้วยพวงมาลัยดอกดาวเรือง    เสาโท  ก็เช่นเดียวกันเพียงแต่เปลี่ยนจากผ้าขาวม้า ให้เป็นผ้าซิ่น   เมื่อใกล้ถึงเวลาตามฤกษ์  เจ้าของบ้านจะต้องดำเนินการจุดธูปเทียน โดยเฉพาะเทียนนอกจากจะจุดปักลงตรงเชิงทั้งสองที่ตั้งตรงหน้าควรจุดปักลงกับพื้นดินรอบหลุม  หลุมละ ๔  เล่ม  
หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนสวดมนต์พิธี
ขั้นตอนสวดมนต์พิธี
            ได้แก่  สวดบูชาพระรัตนตรัย  สวดชุมนุมเทวดา   สวดอิติปิโส  สวดพาหุง  ในระหว่างสวดให้จุดเทียนเล่มใหญ่ที่ขันน้ำมนต์  และดับเทียนก่อนจบคาถา  และพิธีจะหยุดชั่วขณะ  เพื่อที่จะเอาน้ำมนต์ไปปะพรมรอบๆหลุมทั้งสอง หลังจากนั้นให้เจ้าของบ้านและภรรยา ต้องทำการตอกไม้มงคลทั้ง ๙ ชนิด ตรงปากหลุมเสาเอก  เสร็จแล้วจึงหย่อนใบเงิน  ใบทอง  ใบนาก  ใบทับทิม  และใบชัยพฤษ์ ลงก้นหลุม หลุมละ  ๙  ใบ  ลูกแก้วหลุมละ ๙ ลูก เหรียญเงินแบ่งตามความเหมาะสมแต่ละหลุม  และตามด้วย  กุหลาบ  ดอกมะลิ  ดอกรัก  เสร็จแล้วให้มายิบ เหล้าขาวรินลงกับพื้นเพื่อเซ่นสังเวย  และทำพิธียกเสาเอกให้ทำขวัญเสา โดยท่องคาถาว่า  ศรี  ศรี  โอมนะมะริตตะ  โอมมีโอม  ทุติยัมปิ เมตตา  อะระหัง เมตตา  เสร็จแล้วให้ทำการยกเสาเอกลงหลุม  ตรงนี้สำคัญมาก  เจ้าของบ้านต้องจับเสาทางขวา  ภรรยาจับทางซ้าย  โดยให้ใช้คนจำนวนคู่  ได้แก่  ๔  ๖   ๘  คน  ห้ามใช้จำนวนคี่ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งใครจับเสาตรงไหน  ต้องจับตรงนั้น ห้ามปล่อยก่อนลงก้นหลุมเด็ดขาด  ในขณะยกเสา ให้เจ้าของ นำว่า (ไช ) ให้คนอื่นที่ยกเสาทุกคนว่าต่อ ( โย )   พยายามใช้เสียงดังที่สุด  หลังจากนั้นให้ยกเสาโท เสาเอก  เสาโท  ลงหลุมเรียบร้อยแล้ว  ต้องจัดการค้ำยันไม่ให้ล้ม  
            ควรเตรียมคนเพื่อการนี้ล่วงหน้าไว้ให้พร้อมหลังจากตั้งเสาเอก เสาโทเรียบร้อยต้องเข้าพิธีกรรมตามเดิม  โดยทำพิธีถวายเครื่องบวงสรวงเซ่นสังเวย  ให้จุดธูปแล้วปักธูปกับเครื่องบวงสรวง  ถือว่าเสร็จพิธีกรรมขั้นต้น  กระทั่งธูปหมดทุกดอก  ผู้ประกอบพิธี ( เจ้าของบ้าน)  ทำการสวดอัญเชิญเทวดากลับ  บดสวด ให้ว่า นะโม  ๓  จบ ทุกขัปปัตตา จะ นิททุกขา ภะยัปปัตตา จะ นิพภะยา โสกัปปัตตา จะ นิสโสกา โหนตุ สัพเพปิ ปาณิโน เอตตาวะตา จะ อัมเหหิ สัมภะตัง ปุญญะสัมปะทัง สัพเพ เทวานุโนทันตุ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา ทานัง ทะทันตุ สัทธายะ สีลัง รักขันตุ สัพพะทา ภาวะนาภิระตา โหนตุ คัจฉันตุ เทวะตาคะตา สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะยัง พะลัง อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโสฯ เสร็จแล้วจัดของบวงสรวงส่วนหนึ่ง  วางตรงทางสามแพร่ง  โคนไม้ใหญ่  หรือบริเวณด้านหน้าสถานที่ตั้งบ้าน สำหรับสัมภเวสีหรือวิญญาณพเนจร  จึงถือว่าเสร็จพิธีกรรม ยกเสาเอก เสาโทโดยสมบูรณ์                                              
          จิตวิญญาณหรือสิ่งมองไม่เห็นอยากเกินกว่าจะพิสูจน์  บ้านอาคารหลายแห่งต้องทิ้งร้าง  เพราะผู้อยู่อาศัยเจ็บป่วย  เสียชีวิตหรือเกิดเหตุเภทภัยต่าง ๆ  นานาโดยไม่มีสาเหตุปราศจากที่มาที่ไป  และอยากต่อการแก้ไข    กับอีกหลายสิบหลายร้อยครอบครัวและหลายหมื่นองค์กร  ร่ำรวยและมั่นคงตลอดกาล
          พิธีกรรมยกเสาเอกเสาโทอาจจะไม่ทำให้ร่ำรวย  มั่นคง  หรือถึงยกเสาเอกก็อาจจะไม่ทำให้คุณหลุดพ้นจากปัญหา  แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก่อนตรงนี้คือ  เหตุ  เภทภัย  หรือความเลวร้ายต่าง  ๆ ที่เกินการควบคุมถ้าเกิดขึ้นหลังจากเข้าอยู่อาศัยหรือทำการค้า  ถึงเวลานั้นถ้าคิดจะหวนกลับมาทำพิธียกเสาเอกเสาโท  คงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด  นอกจากต้องทุบบ้านหรืออาคารทั้งหลายและปลูกใหม่
           ดังนั้น  ขออย่าลืมคำพูดประโยคหนึ่งที่ว่า  เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เมื่อเราทำได้อย่างนี้แล้วรับรองว่า การที่เราอยู่ในสถานที่นั้นหรือจะประกอบกิจการงานในสถานที่นั้น ก็จะสมบูรณ์ทำให้เรามีทรัพย์ได้หรือกิจการงานเจริญรุ่งเรืองได้
เคล็ดลับการแก้เรื่องฮวงจุ้ย
          ก่อนอื่นเราจะต้องมีอุปกรณ์ เช่น ล่อแกเพื่อดูเรื่ององศาและทิศทาง เพื่อให้ตรงกับทิศที่ดีสมดุลและเหมาะสมกับเรา ตลับเมตร (สำหรับดูเรื่องฮวงจุ้ยโดยเฉพาะ)  ใช้วัดความกว้าง ยาว ความสูง ของหิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา ประตู เตียงนอนศาลเจ้าที่(จูเอี้ย) ศาลพระภูมิ เพื่อให้ตรงกับตัวเลขที่เป็นมงคลกับเรา จะทำให้เราร่ำรวยเจริญรุ่งเรืองและสมบูรณ์ได้ ตัวอย่างเช่น ตรงกับตำแหน่งโชคลาภ คู่สมพงศ์ ยศตำแหน่ง ทุนทรัพย์  ร่ำรวย  หาซื้อตลับเมตรได้ที่ร้านสังฆภัณฑ์หรือร้านที่ขายของเรื่องฮวงจุ้ยโดยเฉพาะ ในการวัดถ้าตัวเลขใดไปตรงกับแถบตัวหนังสีแดงถือว่าดี แต่ถ้าไปตรงกับแถบตัวหนังสือสีดำถือว่าไม่ดี นี่เป็นเคล็ดลับเล็กๆน้อยบางส่วน
ต่อไปเป็นเคล็ดลับเล็กๆน้อย เรื่องการปรับแก้เรื่องฮวงจุ้ย ตัวอย่างเช่น 
  • ห้องสองห้องตรงกันประตูห้องตรงกันแบบนี้ไม่ดี จะทำให้เกิดมีปากเสียงหรือเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน ให้แก้ไขโดยใช้ลูกแก้วที่เป็นกระจกห้อยแขวนไว้ที่ประตู
  • ถ้าบ้านหรือร้านค้าโรงงานอยู่ตรงทางสามแพร่งให้ใช้กระจกนูน กระจกเว้าและสิงห์คาบดาบมาติดไว้ 
  • ถ้าประตูบ้านตรงกันตั้งแต่หน้าบ้านยันประตูหลังบ้านอย่างนี้ไม่ดี  ให้หาผ้าม่านมากั้นเสียอย่างนี้จะเป็นการแก้ไขได้ 
เพราะฉะนั้น  ขอให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้พึงพิจารณาว่าเราจะศึกษาหรืออยู่กับธรรมชาติฝ่ายไหนดี หรืออยู่กับธรรมชาติทั้งสองฝ่ายอย่างกลมกลืนและควบคู่กันไป ก็สุดแล้วท่านจะพิจารณาเทอญ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น